Thursday, August 16, 2018

"จากลูกชายกำนันถึงลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน"

     อานิสงค์ของการอ่านหนังสือสมัยเด็ก ทำให้ผมรู้จักนักเขียนนักเลงกลอนมากมายหลายคน ครั้งหนึ่งอ่านไปเจอเรื่องของ "สองกุมารสยาม" จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เรียนมัธยมจนแก่เฒ่ามาด้วยกันถึงทุกวันนี้ ครับผมหมายถึง "ขรรค์ชัย บุนปาน" กับ "สุจิตต์ วงศ์เทศ" ซึ่งสมัยเป็นหนุ่มถือว่าเฟี้ยวฟ้าวมากในแวดวงวรรณกรรมโดยเฉพาะเรื่อง "ชานหมากนอกกระโถน"

     สมัยเรียนมัธยมหนังสือพิมพ์ที่ผมซื้ออ่านมีฉบับเดียวคือ สยามรัฐ ผมติดบทความ "ซอยสวนพลู" ของหม่อมราชวงศ์คิกฤทธิ์ ปราโมทย์ อย่างหนักไม่อ่านไม่ได้ ผลที่ได้ตามมาคือได้อ่านข้อเขียนบทความจากนักเขียนนักวิจารณ์ระดับปรมาจารย์หลายท่าน รวมทั้งขรรค์ชัย บุนปาน กับ สุจิตต์ วงศ์เทศ ก่อนที่จะมาทำหนังสือพิมพ์มติชน ขอคุยอีกนิดว่าผมได้อ่านหนังสือพิพม์มติชนรายวันฉบับแรกที่หน้ารามฯ จำได้ว่าลงจากรถเมล์ก็เห็นที่แผงหนังสือเลยโลโก้เป็นรูปกุมารสยามตามฉายา 

     สุจิตต์ วงศ์เทศ มาสายโบราณคดีถนัดเขียนเรื่องศิลปวัฒนธรรม เขียนนิยายเรื่อง "ขุนเดช" โด่งดังมาก ส่วน ขรรค์ชัย บุนปาน เขียนบทความและบทกวีแนวลุกทุ่งลงในหนังสือพิมพ์หลายฉบับและมีวรรณกรรมวรรคทองที่ผมชอบมากชื่อ

 "จากลูกชายกำนันถึงลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน"

๏ เลือดฝาดเอ็งเปล่งปลั่งก็ยังสาว
ลองแก่คราวขนาดยายจะไหวหรือ?
เสน่ห์ที่มิได้ทำจากน้ำมือ
สามสี่มื้อบอกตรงตรงก็คงคลาย

ข้าหลงรักก็เพราะเล็งเห็นเอ็งสวย
ปราศสิ่งช่วยเสริมให้ชวนใจหาย
วันแรกสึกออกมาก็ตาลาย
เอ็งกลับกลายเกินจริตแผกผิดคน

เรียนตัดเสื้อในเมืองเป็นเรื่องชอบ
ถูกระบอบขอบเขตของเหตุผล
เพราะคนเราไร้วิชาย่อมพาจน
ข้าไม่เถียงเอ็งด้นถูกหนทาง

สามเดือนเหมือนสามปีที่ข้าบวช
หัวใจรวดร้าวเลยยินเอ่ยอ้าง
ว่ารักชื่นสิจะชืดรสจืดจาง
เกือบแหกกลางพรรษาออกมาดู

เมื่อเห็นตาเคยซื่อกลับดื้อรั้น
ยิ่งเชื่อมั่นแน่ใจเอ็งหมายหลู่
น้ำตาแค้นตกในรินไหลพรู
อุตส่าห์สู้ห่วงหวงเท่าดวงใจ

สิ้นเอ็งแล้วข้าก็พร้อมจะยอมบ้า
ฆ่าเอ็งก็เหมือนฆ่าน้าผู้ใหญ่
ลูกกำนันบุญน้อยขอคล้อยไกล
ข้าไม่ใช่ลูกชายนายอำเภอ ! !

ขรรค์ชัย บุนปาน

"ที่สุดของหัวใจ"

"ที่สุดของหัวใจ"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐หากคืนนี้  ใจไม่แยก  แหลกสลาย

  จะไม่วาย   คนึงนิจ   จิตใฝ่ฝัน

  ไม่เรรวน  หวนหัก  รักแจ่มจันทร์

  ไม่แปรผัน   มั่นอยู่   คู่กับเธอฯ

๐เป็นที่สุด  ของหทัย  ในใจพี่

  ยอดชีวี   ฤดีปัก   รักเสมอ

  สุดแผ่นดิน  ถิ่นฟ้า  พาละเมอ

  ยังพร่ำเพ้อ คร่ำครวญ รัญจวนใจฯ

๐ไม่เข้าใจ  เพราะเหตุใด  ใยเคืองพี่

  นาฏมณี   ศรียุพา   มาผลักไส

  หากพรุ่งนี้  ยังโกรธ  จะโทษใคร

  ให้อภัย   พี่เถิด   เฉิดโฉมงามฯ

๐พี่เจ็บช้ำ มามากแล้ว แก้วตาเอ๋ย

  โอ้ทรามเชย กานดา โปรดอย่าหยาม

  เพราะพี่รัก  เจ้าอยู่  ทุกโมงยาม

  ขอนงราม โปรดอย่าทำ พี่ช้ำเลยฯ

  ต๋อย.(คนพเนจร)

  ๑๕/๐๘/๖๑ @ ๒๐.๐๐ น.

"สู่ทางธรรม" และ "ชีวิตมนุษย์"

"สู่ทางธรรม"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐อันที่จริง  แก่ชรา  ภาษาโลก

อย่าไปโศก   ติดอยู่   ดูไฉน

จะบวชเรียน เพียรธรรม ทำให้ใคร

เพราะเหตุใด ใยกังวล  คนนินทาฯ

๐อันคำคน   บ่นว่า   ภาษาปาก

เพราะไม่อยาก ให้ใคร ดีเกินหน้า

มัวแต่ฟัง  คนติฉิน  และนินทา

หรือกลัวว่า บวชไป ต้องไกลกามฯ

๐จะบวชเรียน เพียรธรรม ตามคำสอน
  
   จะริดรอน   ละกิเลส   ที่เคยหาม

   จะเลิกละ   อิสตรี   ที่คุกคาม

   ไม่ทำตาม   จิตชั่ว   ในตัวตนฯ

๐ถึงไม่พ้น  ทุกข์เข็ญ  เช่นเขาอื่น

   จะเฝ้าฝืน  เพียรธรรม  ซ้ำฝึกฝน

   จะมุ่งมั่น   ภาวนา   พากมล

   ให้หลุดพ้น  ตั้งจิต  ถึงนิพานฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

"ชีวิตมนุษย์"

๛กลอนแปดสุภาพ๛

๏หลบลมร้อน นอนชะอำ ฉ่ำชื่นใจ

   ระลอกไร้  ชมคลื่น  รื่นหรรษา

   มาคนเดียว เปลี่ยวใจ ไร้กานดา

   เหงาอุรา มีเพียงคลื่น ให้ชื่นชมฯ

๏เหม่อมองฟ้า ยามเย็น เห็นวิหค

   บินโผผก   ไปมา   น่าสุขสม

   ถลาร่อน พริ้วไป กับสายลม

   ไม่ระทม  ตรมใจ  ไร้อาวรณ์ฯ

๏ชีวิตคน  ชีวิตสัตว์  มีพลัดพราก

   พบแล้วจาก ร้างไป ใจทอดถอน

   ตอนเกิดมา มาคนเดียว อย่าอาทร

   อย่านิวรณ์ ตอนตาย ก็คล้ายกันฯ

๏อนิจจัง    ทุกขัง    อนัตตา

   ความชรา เวียนมา ใกล้อาสัญ

   ต้องลาลับ  ดับดิ้น  สิ้นชีวัน

   เหรียญสักอัน ก็เอาไป ไม่ได้เลยฯ

15/08/2559 @ 19.00 น. ต๋อย.


"เพื่อน" (Friend)


"เพื่อน" (Friend)

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐โอ้สุขใด  ไหนเท่า  เรามีเพื่อน

   ช่วยย้ำเตือน ความคิดถึง คนึงหา

   ถึงมิได้  อยู่ด้วยกัน  ทุกเวลา

   แหงนมองฟ้า   ก็จะรู้   อยู่ที่ใดฯ

๐ จะอยู่ใกล้   หรือไกล   ใจก็คิด

   ส่งดวงจิต   ฝากลม   ชมไปให้

   เพื่อนบางคน มาพราก จากเราไป

   แต่ในใจ  ยังคิดถึง  คนึงครวญฯ

๐ เพื่อนที่อยู่   ทุกคน   ควรรู้ว่า

   วันเวลา   ผ่านไป   ไม่มีหวล

   จะโกรธแค้น เคืองกัน มันมิควร

   เวลาจวน  หมดแล้ว  นะแก้วตาฯ

๐ จัดสังสรรค์  วันใด  ควรไปบ้าง

   อย่าลาร้าง  คิดไว้ ไปคราวหน้า

   เพราะวันนี้   ยังพอ   มีเวลา

   แต่วันหน้า  อาจไม่มี  ชีวีกันฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

   ๑๔/๐๘/๖๑ @๑๘.๐๐ น.

" สุ ข ใ ห้ เ ป็ น " นิรุตต์ ศิริจรรยา

. . " สุ ข ใ ห้ เ ป็ น " . .

เมื่อใดที่เรา" โมโห .. ลองนั่งนิ่งๆ
ทบทวนดูว่า .. เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้ .. มีอยู่อีกสักกี่วัน ใยเสียเวลา .. ไปเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ...

เมื่อใดที่เรา" กลัดกลุ้ม .. ลองสุดลมหายใจลึกๆ
ทบทวนดูว่า .. ชีวิตนี้มันมีแต่ลดกับลด
ปฏิทิน" ที่ฉีกไปในวันนี้ .. กำลังบอกเรา" ว่า ...
เวลาของเรา .. ลดไปอีกวันหนึ่งแล้ว ...

การได้พบหน้ากัน .. ในวันนี้
หมดโอกาสได้เจอกัน .. ไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว
แล้ว... เรา" จะกลัดกลุ้ม .. ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องไปทำไม.??

ไม่มีใครถูก" ไม่มีใครผิด .. มีแต่ถูกใจ" หรือไม่ถูกใจ
คนที่เรา" ถูกใจต่อให้ .. เค้าทำผิดเรา" ก็ไม่รู้สึกโกรธ
คนที่เรา" ไม่ถูกใจ .. ต่อให้เค้าทำถูก เรา" ก็ยังขวางตาขวางใจ เพราะฉะนั้น ... อย่าไปอาฆาตพยาบาทใคร.?? เค้าเลย

เมื่อใดที่ใครบางคน .. ทำให้เรา" เจ็บปวดใจ
ลองปล่อยให้มันเป็นไป .. ทบทวนดูสิว่า ...
ชีวิตนี้... ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน คนที่มีชื่อเสียง คนที่รวยล้นฟ้า
หรือ... คนที่รัก" กัน .. ปานจะกลืนกินในอดีต วันนี้เหลือไว้แต่ชื่อ ...

สุดท้าย .. เรา" ก็แค่คน .. ที่เคยมาเยือนโลกใบนี้
ต่อให้เรา" แค้น .. เรา" ก็ต้องไป... จากโลกนี้
ต่อให้เรา" อาลัยอาวรณ์ เรา" ก็ต้องจากโลกนี้ไป .. ในสักวันหนึ่ง

เมื่อใดที่เรา"รู้สึกไม่พอใจ...ลองไตร่ตรองดู
ไม่มีใคร.?? ครอบครองสิ่งใด .. ในโลกนี้ได้ตลอดไป

เรา"อาจไม่รวยล้นฟ้า..เหมือนเศรษฐีมีเงิน
แต่... เรา" อาจมีความสุขอันเรียบง่าย .. ที่เศรษฐีโหยหาก็เป็นได้

และ... เรา" ยังแข็งแรงมากกว่า .. คนที่นอนป่วยอยู่ตามโรงพยาบาล
เรา .. โชคดีกว่า... คนอื่นๆ อีกมากเพียงใด
เรา..จงจำไว้..
“มองล่างเราเหลือ .. มองเหนือเราขาด”
ฉะนั้นเราอย่าไปทำตัวเหมือน สุนัขมอง
เครื่องบินเลยนะ

เมื่อใดที่เรา" ถูกเอารัดเอาเปรียบ .. ลองปล่อยวางดูบ้าง
พูดมากจะเสียมิตร .. คิดเล็กคิดน้อย..จะเสียกำลังใจ

เรา จงจำไว้
“เงยหน้าไม่อายฟ้า...ก้มหน้าไม่อายดิน”
แค่นี้ ... ก็เพียงพอให้เรา “สุขใจได้แล้ว”...

วันนี้... ยังกินข้าวได้ .. ยังนอนหลับได้ .. ยังมีเสื้อผ้าให้สวมใส่ ยังไปเที่ยวได้ .. ยังมีคนอยู่รอบกาย .. ยังอ่านหนังสือได้ อ่านเฟสเล่นไลน์ได้ ..
“ความสุข" เช่นนี้อาจหาไม่ได้ง่ายๆ ...

แต่... ความเรียบง่าย .. ทำให้ชีวิต “เป็นสุข”

ตัวเรา เอ๋ย .. จงสุขให้เป็นเถอะนะ

ความสุข ณ ปัจจุบัน

Cr. บทความจากคุณ นิรุตต์ ศิริจรรยา

"วันแม่แห่งชาติ"( MOTHER DAY )



"วันแม่แห่งชาติ"

๛กลอนแปดสุภาพ๛

๏ครบเจ็ดรอบ ราชินี ศรีสยาม

   ทุกเขตคาม   เคารพ   นบถวาย

   ด้วยพระองค์ มีพระคุณ อยู่มากมาย

   ทรงขวนขวาย สร้างงาน ประทานคนฯ

  ๏ทั้งเหนือใต้ ออกตก มิยกเว้น

     ยากลำเค็ญ แค่ไหน ไปทุกหน

    อยู่เคียงข้าง พระภูมินทร์ ปิ่นยุคล

    ดั่งสถล   มรรคา   ในสาครฯ

๏ดุจธารา   เคียงอยู่   คู่กับป่า

   ไพรพนา   ยืนยง   พงสิงขร

   สร้างผืนดิน แดนไทย ให้ถาวร

   เป็นมารดร ของแผ่นดิน ถิ่นไทยงามฯ

๏ขอพระองค์ ทรงเจริญ พระชันษา

   ไร้โรคา   มีสุข   ทุกข์เกรงขาม

   ทุกทิวา   ราตรี   ศรีสำราญ

   ขอกล่าวขาน ให้พระองค์ ทรงพระเจริญฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
นายบริพัตร ศรีธรรม 12/08/2559 @ 08.30 น.

"วันแม่แห่งชาติ"( MOTHER DAY )

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐วันแม่เวียน  บรรจบ  ครบอีกรอบ

   ขอนบนอบ    วันทา    สง่าศรี

   สิริกิตต์    บรมนาถ    พระชนนี

   ดุจมณี    มารดา    ประชาไทยฯ

๐ พระคุณท่าน   มากมี   ศรีสยาม

   ทุกเขตคาม  ยิ้มย่อง  และผ่องใส

   ทรงสร้างงาน  ศิลปชีพ  ประทีบไกล

   คนทั่วไป    ซาบซึ้ง    ได้พึ่งงานฯ

๐ ทั้งป่าเขา  ลำเนาไพร  เคยไปทั่ว

   ไม่นึกกลัว   แดนดิน   ถิ่นสถาน

   ทั้งเหนือใต้  ทักษิณ  ถิ่นกันดาร

   ทรงประทาน ความสุข ไม่ทุกข์กายฯ

๐ ขอพระองค์  ทรงเจริญ  พระชันษา

   สุขกายา    โรคา    จงห่างหาย

   อีกทุกข์โศก เทวษใจ ให้คลี่คลาย

   ทรงสบาย ขอพระองค์ ทรงพระเจริญฯ

   ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

   ข้าพเจ้า นายบริพัตร  ศรีธรรม

   ประพันธ์ถวายเทิดพระเกียรติ

   ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑
ของปีนี้ครับสดๆ ร้อนๆ เลยครับ

น้อมกราบคุณแม่"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐มลิหอม   น้อมวาง   ลงกลางตัก

แทนความรัก  น้อมนบ  จบเกศา

ก้มลงกราบ  แทบเท้า  ของมารดา

เปล่งวาจา บูชาคุณ อุ่นทรวงในฯ

๐ขอเทพไท้  เทวา  ในหล้าโลก

คลายวิโยค  โรคา   พลาสัย

ให้คุณแม่  เบิกบาน  ชื่นฉ่ำใจ

สุขสดใส  สบายจิต  นิจนิรันดร์ฯ

๐ลูกมากราบ   บูชา   มารดาแล้ว

โอ้ดวงแก้ว  งามเลิศ  แสนเฉิดฉันท์

พระคุณแม่   มากล้น   พ้นรำพัน

เป็นมิ่งขวัญ  ของบุตร  สุดบรรยายฯ

๐อันพระอื่น  หมื่นแสน  ในแดนหล้า

ขอบูชา   พระองค์นี้   ไม่หนีหาย

จะคล้องไว้  อิงแอบ  แนบใจกาย

จะไม่คลาย  ไออุ่น  คุณมารดาฯ

ต๋อย.(คนพเนจร)

๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ @ ๑๗.๓๐ น.

Saturday, August 11, 2018

กลอนวันแม่

"คิดถึงแม่"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐จากไปแล้ว  มารดา  แก้วตาลูก
  
   เคยพันผูก  เลี้ยงลูกมา  ชะตาเอ๋ย

   ตั้งแต่เล็ก  จนใหญ่  ได้ชมเชย

   แม่ไม่เคย  ทิ้งลูกไป  จนไกลตาฯ

๐มาครานี้  แม่คนดี  มาหนีจาก

  พรหมมาพราก  แม่ไป  อาลัยหา

  กรรมลิขิต  กำหนดไว้  พิรัยลา

  เป็นชะตา  ฟ้ากำหนด  ตามกฎเกณฑ์ฯ

๐คิดถึงแม่  คราใด ใจแทบขาด

  เหมือนฟ้าพาด  บังไว้  ไม่ให้เห็น

  เกิดชาติหน้า  ฉันใด ใคร่ขอเป็น

  ขอให้เห็น  ขอให้พบ  ประสบกันฯ

๐ขอตั้งจิต  อธิษฐาน  สาบานไว้

  ขอให้ได้  เป็นแม่ลูก  ผูกใจฝัน

  พระคุณแม่  เลิศล้น  พ้นรำพัน

  ขอให้ท่าน  สู่ชั้นฟ้า  สภาพรฯ

  ต๋อย.(คนพเนจร)

  ๑๐/๐๘/๖๑ @ ๑๖.๐๐ น.


"วันแม่แห่งชาติ"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ในวาระ   ดิถี   ที่บรรจบ

  ราชสมภพ ราชินี ศรีสยาม

  สิริกิต์ ทรงเกียรติก้อง ระบือนาม

  ทุกเขตคาม ลือไกล ในโลกาฯ

๐ไท้ทรงเป็น  คู่ใจ  หทัยราชย์

  ไท้องอาจ เสด็จไป ทุกทิศา

  เหนือจดใต้ อีสาน ท่านก็มา

  ปวงประชา เคารพ อบภิวันท์ฯ

๐แปดสิบสอง  พระพรรษา  มหาฤกษ์

  ทรงเกียรติเกริก เบิกฟ้า นภาสวรรค์

  ให้ท่านทรง   สุขเกษม   เปรมชีวัน

   หฤหรรษ์    เริงรื่น    ชื่นพระทัยฯ

๐อายุยืน   ร้อยปี   อย่ามีโศก

  ปราศจากโรค โรคา  พลาใส

  เป็นมิ่งขวัญ  พารา  ประชาไทย

  ขออวยชัย ให้ยืนยง ทรงพระเจริญฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า นายบริพัตร ศรีธรรม.

11 สิงหาคม 2557



“แม่สบายดีรึจ๊ะ”

สตรีร่างเล็กที่นั่งบรรจงรอยดอกไม้อยู่ในภาพนี้อาจเป็นเพียงหญิงธรรมดาสามัญคนหนึ่งในสายตาของคนบางคนผู้ไม่รู้จักคุ้นเคย แต่แท้จริงแล้วสมบัติที่ท่านได้มอบไว้ให้แก่ชาติไทยของเราชิ้นหนึ่งนั้นมีค่ายิ่ง เพราะสตรีในภาพคือเจ้าจอมมารดาชุ่มผู้นี้เป็นชนนีในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยผู้เปี่ยมด้วยพระเกียรติคุณอันเนื่องมาจากผลงานที่เป็นพระกรณียกิจซึ่งมีปริมาณมหาศาลประมาณมิได้

เจ้าจอมมารดาชุ่มเป็นธิดาของพระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) ผู้เป็นมหาดเล็กข้าหลวงเดิมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ รัชกาลที่3มีผู้มาชักจูงแนะนำท่านไปรับราชกาลกับเจ้านายพระองค์อื่นจะให้มียศศักดิ์เป็นใหญ่เป็นโตท่านก็ไม่ยอมไปตอบแต่เพียงว่า”ไม่ขอเป็นข้าสองเจ้า”

สมัครจะเป็นข้าอยู่กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพียงพระองค์เดียว

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ  ถึงกับออกพระโอษฐ์ว่า บรรดาข้าหลวงเดิมคนอื่นนั้น เห็นผู้อื่นมีบุญก็มักเอาใจออกห่าง เคยเห็นใจมาเสียเเล้ว จะไม่เป็นเช่นนั้น ก็แต่อ้ายเฒ่าดิศ (กับใครอีกสองคน) เท่านั้น

เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นดำรงฉัตรเป็นพระมหากษัตริย์ของสยามประเทศ พระยาอัพภันตริกามาตย์ จึงนำธิดาของตนเข้าเฝ้าถวายตัวทำราชการฝ่ายในตามประเพณีมีเจ้าจอมมารดาเที่ยงผู้พี่และเจ้าจอมมารดาชุ่มผู้น้อง เป็นต้น คุณจอมมารดาชุ่มมีพระโอรสเพียงพระองค์เดียวคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอที่ออกพระนามแล้วนั้นข้างต้น

หม่อมเจ้าหญิงพูนพิสมัย ดิศกุล พระธิดาของสมเด็จ ฯ  ทรงเล่าว่าเมื่อสมเด็จ ฯ ยังทรงเป็นแต่เพียงพระเจ้าลูกเธอชั้นเล็กในรัชกาลที่ ๔ โดยปกติแล้วจะได้ขึ้นเฝ้าสมเด็จพระบรมชนกนาถกับเจ้าจอมมารดา ครั้นเจ้าจอมมารดาเที่ยงซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่เจ้าจอมอยู่งานตั้งเครื่องถวายล้มเจ็บเจ้าจอมมารดาชุ่มได้เป็นผู้ตั้งเครื่องแทน สมเด็จฯ ทรงตามเข้าไปยืนเกาะโต๊ะเสวยซึ่งมีขนาดสูงราวพระเศียรแล้วตรัสกับคุณมารดาในเวลานั้น พระราชบิดาทรงลูบพระเศียร แล้วตรัสกับคุณมารดาว่า “ลูกคนนี้จะเป็นที่พึ่งของเอได้ต่อไป”

แต่ทั้งๆ  ที่เป็นพระโอรสของคุณเจ้าจอมฯ เพียงพระองค์เดียว คุณจอมมารดาชุ่มก็ไม่เคยตามพระทัยสมเด็จฯ ในทางที่ผิดเลย หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ทรงบันทึกไว้อีกตอนหนึ่งว่า

“คุณย่าไม่เคยตามพระทัยเลย คำสั่งเด็ดขาดนั้นคือ ปด ไม่ได้ ถ้าผิดต้องรับโดยดีว่าผิด มิฉะนั้นจะถูกตีมาก เสด็จไปไหนมาไหนก็ต้องมาเล่าให้แม่ฟังว่า เห็นอะไร ทำอะไรบ้าง ทรงเล่าว่า วันหนึ่งตามเสด็จออกไปข้างหน้า พบปากกาแก้วน้ำใสสี ๆ ตกอยู่ตรงขั้นบันไดก็ทรงเก็บเอามาเพราะโปรดเสียเหลือเกิน แต่พอถึงตำหนักคุณย่าก็ถามว่าเอามาจากไหน ? ท่านก็บอกความจริง แต่คุณย่าออกคำสั่งว่าให้กลับเอาไปวางไว้ที่เดิมเดี๋ยวนั้น ทรงเล่าว่าเสียดายเป็นกำลัง แต่ก็ต้องเอากลับไป ส่วนการเสวยก็ดีบรรทมก็ดี คุณย่าเลี้ยงอย่างอุดมสมบูรณ์ไม่เคยอดยาก เข้มงวดแต่ในเรื่องศีลธรรมและการงาน ”

ผลจากการอบรมอย่างเคร่งครัดของพระมารดาเช่นนี้ ทำให้สมเด็จฯ  ผู้ทรงเป็นพระโอรสทรงพระเจริญขึ้นเป็นพระบรมวงศ์ที่งามพร้อมด้วยพระจริยวัตร และพระกรณียกิจ เจ้าจอมมารดาชุ่มผู้ทำงานสร้างทรัพยากรอันประเสริฐสุดของชาติแบบปิดทองหลังพระ ได้รับผลตอบแทนคือความชื่นใจที่พระโอรสได้เป็นที่พึ่งของท่าน  สมดังพระราชดำรัสทำนายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ทุกประการ

เมื่อสมเด็จฯ ทรงออกมาประทับที่วังวรดิศแล้ว ทรงขอให้คุณจอมมารดาชุ่มมาเป็นผู้ใหญ่อยู่ในวัง ทุกวันเวลาเช้าบรรทมตื่นแล้ว สรงพระพักตร์ แต่งพระองค์แล้วเสด็จเข้าบูชาพระบรมอัฐิในห้องพระ จากนั้นเสวยเครื่องเช้ามีนมถ้วยใหญ่แก้วหนึ่ง กาแฟนิดหน่อย ไข่และขนมปังกับผลไม้ระหว่างนั้นทรงงานไปพลางด้วย เวลาสายราว ๑๐ นาฬิกาครึ่ง เสด็จไปตำหนักใหญ่ไปเรือนคุณจอมมารดา พอเสด็จถึงก็ทรงหมอบกราบรับสั่งถามว่า “แม่สบายดีรึจ๊ะ” แล้วก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป บางครั้งก็ไปบอกข่าวต่างๆ บ้าง แต่อย่างไรต้องไปกราบทุกวันเวลาเช้า จนคุณจอมมารดาสิ้นบุญจึงยกเลิกกิจวัตรในข้อนี้

พวกเราลองคิดดูเถิดว่าผู้ที่เป็นมารดาจะชื่นใจสักปานใด ที่ยามเช้าของทุกวัน ลูกชายผู้เป็นสุดที่รักจะแวะมากราบลงพื้นแล้วถามว่า "แม่สบายดีรึจ๊ะ"

กลอนแปดสุภาพวันปีใหม่

เมื่อวันปีใหม่ มีนักเลงกลอน แต่งคำอวยพรมาให้
ก็เลยต้องแต่งกลับไปขอบคุณ อ่านแล้วก็จะรู้ว่า
เขาผู้นั้นคือใคร.

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐อ่านคำกลอน  วอนมา  ว่าคิดถึง

  ช่างตราตรึง   ซึ้งอยู่   ไม่รู้หาย

  คำอวยพร    ปีใหม่   ให้พี่ชาย

  อ่านแล้วคลาย ทุกโศก วิโยคพลันฯ

๐จำนรรจถ้อย  ร้อยเรียง  เคียงอักษร

  เป็นคำกลอน พราวเพริด แสนเฉิดฉันท์

  นับเป็นหนึ่ง    ยอดกวี    ศรีลาวัลย์

  ช่างจำนรรจ   ออดอ้อน  ป้อนคำคมฯ

๐ภาษางาม  ไพเราะ  เสนาะนัก

  ดังศรปัก   คาไว้   ในใจผม

  คำอวยพร วอนมา กับสายลม

  ให้ชื่นชม   สมจิต   คิดถึงกันฯ

๐จะไม่ลืม   ไมตรี   ที่มีให้

  จะเก็บไว้ ในใจ ไม่แปรผัน

  จะกี่ปี  จะกี่เดือน  จะกี่วัน

  ก็ไม่หัน  ห่างเห  เฉจากใจฯ

:-โคลงสี่สุภาพ(กระทู้)-:

๐วิ..........เศษนักน้ำถ้อย        ร้อยเรียง
  เชียร.....ชิดติดใจเพียง         เพียรพร่ำ
  ธรรม.....สถิตมอบไว้เคียง     ใจพี่
  สอน......สั่งให้เรียนร่ำ          ลึกล้ำคำโคลงฯ

บริพัตร. 05/01/2557.
คนที่ส่งกลอนมาให้ ชื่อ วิเชียร  ธรรมสอน

"อยู่เพื่อคอยเธอ"(Waiting for you)

"พเนจร ร่อนไป ในไพรกว้าง
 แม้อ้างว้าง แต่ใจ ก็สุขสม
 อยู่บนหลัง อาชา ถลาลม
 ได้ชื่นชม พฤกษ์พง ดงนักเลง"

(คนพเนจร)







"อยู่เพื่อคอยเธอ"(Waiting for you)

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐โอ้เกิดมา  ไร้คู่  ดูหม่นหมอง

  ได้แต่มอง   คนอื่น   ชื่นสุขสม

  เค้าเกี่ยวก้อย กันมา น่าชื่นชม

  ดุจดังพรหม สร้างคิด ลิขิตมาฯ

๐หรือเป็นเพราะ ชะตา ฟ้ากำหนด

  ไม่จารจด  ปล่อยเรา  ให้เฝ้าหา

  ต้องอยู่เดียว เปลี่ยวเศร้า เหงาอุรา

  อนิจจา    เพื่อนใจ    ใยไม่มีฯ

๐ฉันเฝ้าคอย  เธออยู่  รู้บ้างไหม

  ทั้งกายใจ  มีแต่ทุกข์  ไม่สุขศรี

  ดุจเงือกน้อย ลอยล่อง ในวารี

  ในนที   กว้างใหญ่   ไร้คู่นอนฯ

๐ถึงจะมี   นิวาส   สถานอยู่

  ช่างอดสู   อยู่ไป   ใจทอดถอน

  จึงลิขิต    อักขรา    มาเป็นกลอน

  ใจอาวรณ์ พร่ำเพรียก เรียกหาเธอฯ

09/08/2557 @ 12.57 น. ต๋อย.
https://youtu.be/kLGeD3Va4KU
"ผู้ครองฟ้า"(นท.หริรักษ์  ศรีธรรม)

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ในแดนดิน ถิ่นนภา ท้องฟ้ากว้าง

   ไม่แรมร้าง  บินไป  ในเวหา

   ถึงสูงลิบ   ลับลิ่ว   จนไกลตา

   ไม่อาจมา กรีดขวาง ทางหัวใจฯ

๐มีหน้าที่  ปกป้อง  บนท้องฟ้า

  สูงสง่า   ดังหัวใจ   ที่ฝันใฝ่

  คือปกป้อง คุ้มครอง ท้องฟ้าไทย

  ไม่ยอมให้  ชาติใด  มารุกรานฯ

๐จะยอมตาย หมายเทิด องค์กษัตริย์

  จะขจัด    ริปู    ด้วยอาจหาญ

  จะขออยู่ ในกองทัพ  ตลอดกาล

  จะล้างผลาญ  ศัตรู  จะสู้ตายฯ

๐บนนภา    พื้นนี้    มีพี่อยู่

  คอยเฝ้าดู  ปกป้อง  ไม่หนีหาย

  ชีวิตนี้    มอบให้    ทั้งใจกาย

  ถึงวางวาย ใจไม่คลาย กลายจากเธอฯ

รจนา 29/03/2556 บริพัตร  ศรีธรรม.

แต่งให้ลูกชายตนโตครับ





"สายชล" "บุพเพสันนิวาส"

"สายชล"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐เหม่อมองสาย  นที  ที่เวียนวก
  
  มัจฉาผก   โผผุด   แล้วมุดว่าย

  โอ้สายชล  วนเห็น  เป็นประกาย

  เย็นพระพาย  พร่างพรม  ชมวารีฯ

๐มองเห็นนก   ผกผิน   บินลาลับ

  แสงทองจับ   พื้นนภา   สง่าศรี

  สกุณา   บินจากไป   ไกลฤดี

  ทิ้งนที    ทิ้งฟ้า    ลาตะวันฯ

๐เปล่าเปลี่ยวหนอ หัวใจ ใยถูกทิ้ง

  อยากจะอิง  รักใคร  ไกลเกินฝัน

  เสียแรงรัก  ปักจิต  มิตรสัมพันธ์

  แค่เห็นกัน  ให้พะวง  จึงหลงทาง

๐เจ็บอีกแล้ว    ช้ำฤดี    ไม่มีเจ้า

  เจ็บจนเศร้า  เหงาจิต  คิดจนสาง

  มิเคยลืม   อดีตเก่า   เจ้าจืดจาง

  พี่ครวญคราง เพราะสายชล หลั่งล้นใจฯ

  ต๋อย.(คนพเนจร)

  ๐๗/๐๘/๖๑ @ ๑๙.๔๕ น.

"บุพเพสันนิวาส"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

💘บุพเพสัน นิวาส ประหลาดนัก

     บรรจงปัก หว่างใจ หทัยพี่

     ดุจศรรัก  ปักซ้ำ  ตำฤดี

     ให้ตัวพี่ ป่วนใจ ใคร่ภิรมย์ฯ

💖ถ้าเป็นคู่ กันแล้ว ไม่แคล้วคลาด

     ทุกทุกชาติ  คงชื่น  ไม่ขื่นขม

     ขอบฟ้ากว้าง ขวางไว้ ยังได้ชม

     ฝ่าคลื่นลม  ภูผา  สถาพรฯ

❤ถ้าพบรัก  สุขสม  ไม่ตรมจิต

     รักคนผิด  ช้ำใจ  ไฟสุมขอน

     พบรักใหม่  คนดี  ศรีบังอร

     จะกินนอน คิดถึง คนึงครวญฯ

💗เมื่อความรัก ปักใจ อาลัยหา

     ล้นอุรา  ล้นใจ  อาลัยหวน

     อาลัยรัก ห่วงหา พารัญจวน

     อยากชื่นชวน ชมชิด คิดถึงเธอฯ

08/08/56 @ 18.58 น. ต๋อย.(คนพเนจร)
"ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ตามตำรา คราก่อน ท่านสอนว่า

  ในท้องนา   มีปลาอยู่   คู่ผสม

   เพราะที่ใด  มีน้ำ  และโคลนตม

   ปลาชื่นชม  เวียนว่าย สายธาราฯ

๐ในท้องนา  มีข้าว  สกาวเกลื่อน

   รอวันเดือน  ฝนพร่ำ  ฉ่ำเวหา

   พอออกรวง เหลืองทอง ทั่วท้องนา

   รอเวลา   ลับเคียว   เกี่ยวข้าวกันฯ

๐มาบัดนี้  ไม่มีปลา  ในนาแล้ว

  ไร้วี่แวว   มัจฉา   ที่เคยฝัน

  ด้วยว่ามาใช้เครื่องมือ จักรกลกัน

  เปลืองน้ำมัน ปลาไม่มี หนีจากจรฯ

๐มันหมดยุด สุขสบาย ของชายหญิง

  เคยแอบอิง  เกี่ยวเกี้ยว  ดวงสมร

  หมดกันที  ปลาในน้ำ  ทำนาดอน

  ควายถูกตอน ส่งขาย ที่ปลายนาฯ

05/08/2557 @ 12.38 น. ต๋อย.


"กรรมลิขิต"

"กรรมลิขิต"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐กรรมลิขิต หรือไร ใคร่อยากรู้

  ตัวของกู ไม่สอนใจ ใครจะสอน

  ทำให้ต้อง   ร่อนเร่   พเนจร

  ค่ำก็นอน  ผ่อนใจ  ไกลผู้คนฯ

๐อดีตเก่า  หวนไป  ใจก็เศร้า

  ช่างปวดร้าว เร่ไป ทุกแห่งหน

  ผิดเป็นครู  ดูไว้  ใครทำตน

  นี่หรือคน   ที่ดี   มีวิชาฯ

๐จะหวนกลับ  ตั้งใหม่  ก็ไกลแล้ว

  หมดวี่แวว  หมดใจ  จะใฝ่หา

  ทั้งอายุ  ทั้งจิตใจ  ใกล้ชรา

  ใครจะมา เหลียวแล ชะแง้ดูฯ

๐มีวิชา  ท่วมหัว  ตัวไม่รอด

  ได้แต่กอด   ตำรา  น่าอดสู

  คนรุ่นหลัง  ดูไว้  ให้เป็นครู

  อย่าเหมือนกู รู้วิชา แต่ว่าจนฯ

05/08/2557 @ 11.45 น. ต๋อย.


"บางปู"

"บางปู"

:-กลอนแปดสุภาพ-:

๐โอ้บางปู  ดูงาม  ยามเย็นย่ำ

   ตะวันต่ำ ลดแสง จนแรงหาย

   ลมระเรื่อย เฉื่อยฉิว ต้องผิวกาย

   แสนสบาย   นั่งอยู่   ดูนางนวลฯ

๐บินเป็นหมู่ เรื่อยเรียง ร้อยเคียงคู่

  ช่างน่าดู   ไปกลับ   รับลมหวล

  บ้างอยู่เดียว เปลี่ยวคู่ ดูรัญจวน

  แม้นางนวล ไม่มีนวล ให้ชวนชมฯ

๐โอ้บางปู    ก่อนนี้    เคยมีเจ้า

   นั่งคลอเคล้า เคียงกัน วันศุกร์สม

   ฟังเสียงคลื่น รื่นเร้า เคล้าสายลม

   เจ้าตาคม เคลียคลอ ยอกล้อกันฯ

๐ไม่มีแล้ว    วันชื่น    คืนวันศุกร์

  คืนสนุก    ลับไป    จนไกลฝัน

  เหลือแต่เสาร์ อาทิตย์ แล้วก็จันทร์

  เราพบกัน  เพื่อพราก  จรจากเอยฯ

รจนา  23/02/2556  ต๋อย.



"นางนวล"
-:โคลงสี่สุภาพ:-

๐นางนวลนวลนางน้อง       เนื้อนวล

  คราค่ำใครคร่ำครวญ      ครวญคร่ำ

  จำจากจำใจจวน             จวนจาก

  พี่เพ้อเพียงพูดพร่ำ           เพรียกพ้องเพียงพอฯ

05/08/2557 @ 18.08 น. ต๋อย.


"รถไฟ-เรือเมล์-ลิเก-ตำรวจ" และ บางรัก-บางพลัด-บางจาก"

"รถไฟ-เรือเมล์-ลิเก-ตำรวจ"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐รถไฟ..วิ่งจากไป    ก็ไกลห่าง

  เหลือแต่ราง   ทิ้งไว้   ให้คอยหา

  เรือเมล์..ไปเช้าเย็น   ไม่เห็นมา

  เหมือนนกกา บินพราก จากรังรวงฯ

๐ลิเก..เด่น  เล่นไป  ไม่เป็นที่

  เรานารี หรือจะตาม ไปห้ามหวง

  ตำรวจ..นี้    ชีวี    อยู่ที่ดวง

  อาจจะล่วง  สูญลับ  ดับชีวันฯ

๐สี่สิ่งนี้     ไม่มี     อะไรแน่

  คงต้องแปร เปลี่ยนไป คล้ายความฝัน

  ควรยึดมั่น   ตนไว้   ใจสำคัญ

  ถึงจะผัน   เปลี่ยนไป   ใจไม่ตรมฯ

๐สิ่งแน่แท้  คือกาย  ต้องตายแน่

  สาวแล้วแก่  เหี่ยวไป  ใจขื่นขม

  อย่าไปยึด   ติดอยู่   เลยตาคม

  มันแค่ลม  ผ่านลับ  ไม่กลับคืนฯ

รจนา 09/05/2556 ต๋อย.

บางรัก-บางพลัด-บางจาก"

:-กลอนแปดสุภาพ-:

๐โอ้บางรัก  รักยิ่ง  จริงจริงหรือ

  คนจึงถือ   เขตนี้   ดีหนักหนา

  ว่าไปจด  ทะเบียน  แล้วจะพา

  สุขหรรษา    สดชื่น    รื่นฤดีฯ

๐เหตุไฉน   ใยคิด   ติดที่ชื่อ

  มายึดถือ  ชื่อบาง ว่าสุขศรี

  จดบางนี้  บางไหน  ก็ไม่ดี

  ถ้าใจนี้   ไม่ซื่อ   ยึดถือกันฯ

๐ทีบางพลัด  ทำไม  ไม่ไปจด

  หรือกลัวอด พลัดไป ไกลจากฝัน

  มีอีกบาง  ก็รับจด  อยู่ทุกวัน

  แต่คนหัน  เฉไฉ  ไม่ไปเลยฯ

๐ชื่อบางจาก เพราะดี เพราะมีจาก

  อยู่ทางฟาก เมืองสมุทรฯ สุดเฉลย

  ได้ยินชื่อ   บางแล้ว   คนเฉยเมย

  โอ้ทรามเชย กลัวพราก จากสามีฯ

04/08/2557 @ 09.39 น. ต๋อย

"คนเดียวในดวงใจ"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐เธอเป็นใคร มาจากไหน ไม่เคยคิด
  
   มาสนิท   ใกล้ชิด   ในใจฉัน

   จากฟากฟ้า แสนไกล มาใกล้กัน

   มาสัมพันธ์   ผูกรัก   สลักใจฯ

๐มาจากดิน หรือสวรรค์ ฉันก็รัก

   หัวใจภักดิ์  แนบสนิท  จิตผ่องใส

   ไม่หวั่นเกรง  คำติฉิน  นินทาใด

   เพราะหัวใจ   รักมั่น   นิรันดรฯ

๐เธอเป็นใคร มาจากไหนใจฉันรู้

   ฉันมาอยู่    คู่สถิต    ชิดสมร

   จะโชคดี หรือร้าย ไม่คลายคลอน

   ไม่อาวรณ์ ถอนจิต มิตรสัมพันธ์ฯ

๐แม้รักแล้ว ต้องเศร้า เผาดวงจิต

   ไม่เคยคิด  ร้างไกล  ใจแปรผัน

   ยอมรับโชค  ชะตา  ไม่จาบัลย์

   จะสานฝัน  เคียงคู่  อยู่กับเธอฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

      ๐๒/๐๘/๖๑ @ ๑๘.๐๐ น.

"ชะตาชีวิต"

"ชะตาชีวิต"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ชีวิตนี้ เหนื่อยนัก ขอพักก่อน

  ขอหลับนอน สักคืน ไม่ตื่นฝัน

  ชีวิตนี้   สุดซึ้ง   จึงรำพัน

  ไม่สุขสันต์ ดังใจ ที่ใฝ่ปองฯ

๐ชีวิตนี้   เศร้านัก   ถ้าจักคิด

  ใครลิขิต ให้เรา ต้องเศร้าหมอง

  ชีวิตนี้   เหตุไฉน   ใยต้องลอง

  ขอลาน้อง  ลาไกล  ไปจากเธอฯ

๐ต่อแต่นี้   พี่คง   ต้องเลิกดื่ม

  จะขอลืม  รักไกล  ที่ใจเผลอ

  อยากจะลืม ทุกสิ่ง ที่เคยเจอ

  จะไม่เผลอ ปล่อยใจ ให้ใครเลยฯ

๐พรมลิขิต   ขีดไว้   ให้ใจเศร้า

  เพราะว่าใจ ของเรา ไม่อยู่เฉย

  เพราะว่าใจ หลงไป รักทรามเชย

  ใจไม่เคย   จดจำ   จึงช้ำใจฯ

03/08/2557 @ 10.47 น. ต๋อย.


วัดไม่เข้า​ เหล้าไม่หยุด คือจุดแข็ง
เพราะเสียแรง​ ลงทุนมา​ก​ ยากจะถอน
เข้าพรรษา​ กิจ​ของสงฆ์​ จงสังวรณ์​ 
เมาแล้วนอน​ กิจของเรา ผู้​ทรนง​

วีระ ศรีรัตนะ
3 สิงหาคม 2018

"แม่ของฉัน(Mother of mine)"

"แม่ของฉัน(Mother of mine)"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ใครที่แม่     ยังมี     ชีวีอยู่

   โปรดจงดู แลท่าน อย่าให้หมอง

   ด้วยท่านนั้น มีคุณค่า กว่าเงินทอง

   ใหญ่กว่าท้อง  ธารา  มหานทีฯ

๐ท่านเป็นพระ ที่ประจำ อยู่ในบ้าน

   ป้อนอาหาร เลี้ยงดูเรา ให้สุขศรี

   จากทารก  เติบใหญ่  จนได้ดี

   พระคุณนี้   สุดที่   จะพรรณาฯ

๐ลูกคนไหน    ทำนุ    บำรุงท่าน

  จะสุขสันติ์ รุ่งเรือง เป็นหนักหนา

  ทำสิ่งใด  คนนับถือ  เลื่องลือชา

  ดุจคาถา  เกาะกั้น  คุ้มกันภัยฯ

๐ลูกคนไหน   ย่ำยี   ด่าตีแม่

  จะย่ำแย่ ขัดสน จนหมองไหม้

  จะทำกิจ   สิ่งใด   ก็บรรลัย

  พอท่านตาย คิดได้ ก็สายเกินฯ

๐ท้ายที่สุด  แห่งกลอน  ที่วอนว่า

  เทวดา   องค์นี้   ควรสรรเสริญ

  เลี้ยงดูท่าน ตอนท่านยัง ยิ่งเจริญ

  ดีกว่าเทิน  อุทิศให้  ตอนวายชนม์

12/08/2558 @ 08.38 น. ต๋อย.

"พระคุณแม่"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

😉โอ้พระคุณ  หนุนแผ่  คุณแม่นี้

     ยากจะมี ใดเปรียบ เทียบเทียมถึง

     แต่วัยเยาว์ เฝ้ากล่อม น้อมใจตรึง

     คอยคนึง  ถึงลูก  เฝ้าพูกพันฯ

😛ยามลูกหิว  แม่นี้  จะคอยป้อน

     ยามลูกนอน พัดวี ไม่ห่างหัน

     ถึงเติบใหญ่ แม่ก็ห่วง ทุกคืนวัน

     บุญคุณนั้น  ท่วมท้น  ล้นฤดีฯ

😍แม้นถ้าเอา ภูผา มาเขียนวาด

     ในกระดาษ คือนภา สง่าศรี

     ไม่อาจเขียน จนครบ จบวจี

     คุณความดี  แม่นี้  มีให้เราฯ

😘หากท่านใด  ตอนนี้  มีแม่อยู่

     โปรดจงดู  แลแม่  อย่าให้เฉา

     ทำไว้เถิด  ตอนนี้  ดีไม่เบา

     ดีกว่าเศร้า ห่วงหา เวลาตายฯ

12/08/56 @ 06.49 น.ลูกต๋อย!

"รำลึกถึงคุณแม่"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐โอ้พระคุณ   หนุนแผ่   คุณแม่นี้

   ยากจะมีใดเปรียบ เทียบเทียมถึง

   แต่วัยเยาว์ เฝ้ากล่อม น้อมใจตรึง

   ครุ่นคำนึง   รักลูก   เฝ้าผูกพันฯ

๐ครั้นอายุ   ลุล่วง   พ้นห่วงได้

  แม่ยังไม่   สิ้นรัก   สลักมั่น

  ยามลูกทุกข์ แม่เข้า บรรเทาพลัน

  ยามลูกหรร..ษารื่น  แม่ชื่นใจฯ

๐แม้นเอาโลก แทนปากกา มาลากวาด

  เอานภา   แทนกระดาษ   มาวาดไข

  เอาน้ำหมึก   จากมหา   ชลาลัย

  แล้วเขียนใส่  ให้ครบ  จบบุญคุณฯ

๐มิอาจสิ้น   สุดได้   ที่ไขขาน

  สุดจะจาร ขานหมด ทดเกื้อหนุน

  พระคุณแม่  ยิ่งล้ำ  คอยค้ำจุน

  เปรียบร่มบุญ ปกป้อง คุ้มครองนานฯ

แต่งเทิดพระคุณ คุณแม่อุบล ศรีธรรม ในหนังสือแจก
งานฌาปนกิจศพ ณ.เมรุวัดอมรินทราราม อ.บางกอกน้อย
จ.ธนบุรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2513
จากลูก บริพัตร  ศรีธรรม(ต๋อย)


"คืนนี้พี่คอย" -:กาพย์ยานี๑๑:-


"คืนนี้พี่คอย"

-:กาพย์ยานี๑๑:-

๐คืนนี้   มีจันทร์ส่อง

  ทั่วทั้งท้อง  ถิ่นนภา

  คืนนี้   มีดารา

  ส่องธารา  กระจ่างงามฯ

๐คืนนี้   พี่คอยเจ้า

  พี่คอยเฝ้า  ทุกเขตคาม

  คืนนี้   ไร้นงราม

  พี่คอยตาม  ถามหาเธอฯ

๐จากไกล  ใจพี่เศร้า

  พี่รักเจ้า   รักเสมอ

  อยากใคร่  จะได้เจอ

  พี่พร่ำเพ้อ  ละเมอครวญฯ

๐อยากบอก  ให้เธอรู้

  พี่ไร้คู่   โศกกำศรวล

  รู้ไหม   ใครรัญจวน

  ไม่มีนวล  ให้ชวนชมฯ

๐ทะเลงาม  ยามเศร้า

  พี่ขาดเจ้า  เคยสู่สม

  เหลือไว้  เพียงสายลม

  พี่จะชม   สมสู่ใครฯ

๐ทะเล   ไม่เคยหลับ

  จันทร์ลาลับ  อับแสงใส

  จันทร์จ๋า   อย่าจากไป

  ทิ้งพี่ไว้   ในธาราฯ

๐เรือน้อย   คอยเธออยู่

  แม่ยอดชู้   เสน่หา

  เธอนั้น  เปรียบดังปลา

  แม่มัจฉา  ยอดยาใจฯ

๐คืนนี้   พี่ช้ำนัก

  หัวอกหัก  แทบตักษัย

  ลาแล้ว   นะทรามวัย

  ขอลาไกล  คนใจดำฯ

รจนา ๒๓/๐๔/๒๕๕๖ ต๋อย.


"สายฝน (Falling Rain)"

"สายฝน (Falling Rain)"

๛กลอดแปดสุภาพ๛

๏นอนฟังเพลง Brenda Lee ทวีสุข

   ฟังสนุก   สุขใจ   เคยใฝ่ฝัน

   Sue Thompson ไพเราะ พอพอกัน

   Vacation  ซาบซึ้ง  ตราตรึงใจฯ

๏Sad Movie  ฟังดี  เมื่อมีทุกข์

   หมดความสุข บางคน ก็ร้องไห้

   แล้วก็เริ่ม ด้วยJust  let me cry

   ดู Sky   แล้วรำพึง   ว่าซึ้งจังฯ

๏Lonesome  Me ก็เพราะ เสนาะหู

   เป็นเพลงครู ชวนให้คิด ถึงความหลัง

   เหมือนโลกนี้ เหลือเรา เพียงลำพัง

   โจโจ้ซัง     ก็ดี     ไม่มีเธอฯ

๏ยามวสันต์  ฝนพร่ำ  จนฉ่ำพื้น

   ยามค่ำคืน  รำพึง  ถึงเสมอ

   ฝนฉ่ำฟ้า  คราใด  ใจละเมอ

   ต้องพร่ำเพ้อ Falling Rain เอนตัวนอนฯ

01/08/2559 @ 09.35 น. ต๋อย.

"หอไตรวัดพระสิงห์" จ.เชียงใหม่



"หอไตรวัดพระสิงห์" จ.เชียงใหม่
  -:โคลงสี่สุภาพ:-

๐งามเลิศบรรเจิดแท้        สร้างสรรค์
  ดุจวิมานบนสวรรค์        สรรสร้าง
  ฤาเทพไท้เทวัญ             ประดิษฐ์
  งามเฉิดฉันสล้าง           คู่ฟ้าเมืองเชียงฯ

รจนา 27/01/55 ต๋อย.




"ดอกดาวเรือง"
-:โคลงสี่สุภาพ:-

๐ดาวเรืองงามเลิศล้ำ         ดั่งทอง
  เหลืองใสสดชวนมอง       มั่นแล้
  ชายเห็นก็หวังปอง           สมสู่
  แต่รักไม่แน่แท้                เลิกร้างแรมลาฯ

รจนา 22/01/55 ชายต๋อย.

"น้ำหลาก" "เกาะสีชัง" และ "ภูผา-ธารน้ำ"

"น้ำหลาก"

:-กลอนแปดสุภาพ-:

๐มาอีกแล้ว  ธารา  มาอีกแล้ว

  เริ่มเจาะแนว อีสาน สถานถิ่น

  เข้าอุบล แล้วทะลัก มาสุรินทร์

  ไหลหลั่งริน ท่วมท้น ล้นคันนาฯ

๐ศรีสะเกษ  บุรีรัมย์  ฉ่ำไปทั่ว

  ต้องหมองมัว มืดมิด ทั่วทิศา

  สกลนคร  เมืองเลย  น้ำก็มา

  หรือชะตา ฟ้าลิขิต ควรคิดดูฯ

๐ฝนฉ่ำฟ้า    ครานี้    ไม่มีเหลือ

  ทั้งทางเหนือ   ฝนก็มา   น่าอดสู

  เมืองแพร่น่าน แม่สาย ไหลพร่างพรู

  คนที่อยู่   ต้องช้ำ   ระกำใจฯ

๐เพชรบูรณ์  พิจิตร  จวนมิดแล้ว

  คงไม่แคล้ว เข้าท่วม เมืองพระใหญ่

  นครสวรรค์   ชัยนาท   แล้วอุทัย

  น้ำคงไล่   เรื่อยมา   หาเมืองกรุงฯ

30/07/57 @ 16.57 น. บริพัตร.

วันนี้ขออนุญาตว่าด้วยเรื่องโคลงสี่สุภาพ
  เดี้ยวจะคิดว่าผมแต่งเป็นแต่กลอนอย่างเดียว"

"เกาะสีชัง"
-:โคลงสี่สุภาพ:-

๐อันรักพี่มีไว้          ให้เจ้า
  มีไว้เพื่อสองเรา      เสมอ
  ทุกวันพี่ยังเฝ้า        คอยเธอ
  ยามไกลพี่ยิ่งเพ้อ    ห่วงหาอาลัยฯ

๐สีชังชังพี่แล้ว          หรือไร
  ศรีสวัสดิอำไพ        ไกลห่าง
  เกาะนี้พี่เคยไป        มาก่อน
  ศรีอย่าได้แรมร้าง    ห่างเหเสน่ห์เลยฯ

รจนา 29/12/56 ต๋อย.

"ภูผา-ธารน้ำ"
-:โคลงสี่สุภาพ:-

๐ภูผาสลับล้วน                ชวนมอง
  เกาะกลุ่มกอดตระกอง     กันไว้
  เงายอดทอดหมายปอง    ฟากฟ้า
  ดั่งเทพสรรสร้างให้         อยู่คู่ฟ้าดินฯ

๐ธารน้ำไหลเอื่อยเลื้อย       เลาะหิน
  ไหลเรื่อยล้นหลั่งริน          ถิ่นแคว้น
  โลมลูบไล้จูบดิน              ฉ่ำชื่น
   เปรียบไปก็เหมือนแม้น     ฝากฟ้าโลมดินฯ

รจนา 05/01/55 ต๋อย.

"Crying in the rain." และ "เจ็บแล้วไม่จำ"

"Crying in the rain."(จากบางพูด ถึง บางปะอิน)

-:กลอนหกสุภาพ:-

๐ฝนมา     ฟ้ามัว     ทั่วทิศ

  ฟ้าปิด     ระทม      ตรมไหม้

  ฟ้าร้อง  คร่ำครวญ   ป่วนใจ

  โหยไห้     ห่วงหา   อาทรฯ

๐บางพูด     บางพัง     ฝังจิต

  รังสิต         ปทุม        สุมขอน

  ลาดหลุม    แก้วไป    ใจจร

  ภมร    ตอมดอก    บัวบานฯ

๐ลาดบัว    หลวงเอย    เคยชิด

  มิ่งมิตร     นิทรา     ตาหวาน

  บางไทร    ร้างลา    มานาน

  สงสาร      ยอดชู้     คู่ใจฯ

๐บางปะ     อินแนบ    แอบสม

  เคยชม     สมสู่      อยู่ใกล้

  บัดนี้     ร้างลา     อาลัย

  จากไกล     ฝนมา     ลาเธอฯ

  ต๋อย.(คนพเนจร)

  ๒๙/๐๗/๖๑ @ ๑๘.๓๐ น.

"เจ็บแล้วไม่จำ"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ถึงรักพราก จากไป จากใจฉัน

     แต่สัมพันธ์   ฝังอยู่   ไม่รู้หาย

         ถึงรักพราก จากไป ไกลจากกาย

              ถึงรักหาย  ห่างหา  ยังอาวรณ์ฯ

๐ดุจรถไฟ  วิ่งไป  แล้วไกลห่าง

      เหลือแต่ราง วางไว้ บนไม้หมอน

           ดุจนกร้าง  ห่างกรง  ลงจากคอน

                บินจากจร  ร่อนไป  ในนภาฯ

๐โอ้ปีนี้  ปวดใจ  ไร้ความสุข

      มีแต่ทุกข์ ไม่สุขใจ ไม่หรรษา

          โอ้ปีนี้   ร้าวรวด   ปวดอุรา

               เพราะยุพา มารวน มาป่วนใจฯ

๐เจ้าคุมแค้น เคืองโกรธ พิโรธพี่

      ว่าไม่มี   ใจจริง   ยิ่งไฉน

          หัวใจพี่ เจ็บช้ำ ระกำใน

              โอ้กระไร ทำดี แต่มีกรรมฯ

๐เจ็บปวดนัก รักพี่ มีแต่ช้ำ

      ถูกกระทำ เพราะใจ พี่ถลำ

          เจ็บมาแล้ว แต่ใจ ก็ไม่จำ

               เลยระกำ เพราะสตรี ทุกทีเอยฯ

แต่งเมื่อวันที่ 02/01/57 ชายต๋อย.

"เพชรบุรี"

"เพชรบุรี"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

🏊มาเมืองเพชร   บุริน   ถิ่นที่หวาน

     คนกล่าวขาน มีหลายหาด ประหลาดนัก

     ทั้งหาดเจ้า  หาดนี้  พี่มาพัก

     เคยพบรัก  สุขสม  ชมทะเลฯ

🏄ถึงหาดเพชร  มาดู  รูปยักษี

     ในวารี  คอยรัก  ที่หักเห

     พระอภัย  พี่จ๋า  มาเกเร

     หลงสเน่ห์ ของใคร ใยไม่มาฯ

🏂หาดปึกเตียน พี่เพียร เขียนอักษร

     เป็นคำกลอน ร้อยรื่น ชื่นนาสา

     จำนรรจ์ถ้อย ร้อยไว้ ให้สุดา

     ยอดยุพา  คนดี  ที่จากไกลฯ

🎣หาดชะอำ  ช้ำจิต  คิดถึงเจ้า

     เคยคลอเคล้า ชมชิด พิสมัย

     ฟังเสียงคลื่น ดื่มด่ำ ฉ่ำฤทัย

     แต่กลับไร้  น้องนุช  บุษบาฯ

🚴อนิจจา  หาดงาม  ยามคลื่นซัด

     แต่พี่พลัด พร่ำเพรียก เรียกร่ำหา

     ต้องอยู่เดียว เปลี่ยวใจ ไร้กานดา

     ไม่อยากมา  ชะอำ  กลัวช้ำใจฯ

🏇ขอลาแล้ว เมืองเพชร เกล็ดแก้วเอ๋ย

     กระไรเลย   ช้ำจิต   คิดไฉน

     อดีตเก่า  ย้อนยัก  ปักหทัย

     ปักตรงไหน ก็ไม่หนัก เหมือนปักทรวงฯ

29/07/56 @ 10.07 น. ต๋อย.(คนพเนจร)

"การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
  ความยินดีในธรรม ย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
   ความสิ้นตัณหา ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง"

"ไม่ประกอบด้วยกาล ธรรมะไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ไม่ขึ้นอยู่กับสมัย คือใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย เพราะฉะนั้น ธรรมะจึงไม่ขึ้นอยู่กับเวลา สิ่งใดขึ้นอยู่กับเวลา สิ่งนั้นจึงมีการทันสมัย และล้าสมัย"

"วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ในพระราชวงค์จักรี"

"วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ในพระราชวงค์จักรี"

-: กลอนแปดสุภาพ:-

*เฉลิมพระชนม์ พรรษา มหาฤกษ์

  อรุณเบิก  ทั่วนภา  ฟ้าสยาม

  วันประสูติ องค์กษัตริย์ ผู้ทรงนาม

  ทุกเขตคาม เคารพ นบพระองค์ฯ

*ยี่สิบแปด   กรกฎา   เวียนมาถึง

  ไทยซาบซึ้ง อำนวยชัย ไท้ประสงค์

  ดำริหวัง  ดังดวงจิต  คิดจำนงค์

  ขอพระองค์  สุขหทัย  ไร้โรคาฯ

*ขอน้อมจิต  สถิตอยู่  คู่สยาม

  ดุจองค์ราม  ผ่องผุด  สุดเวหา

  ดังเทพไท้ ส่งพระองค์ ให้ลงมา

  ครองพารา แดนดิน ถิ่นไทยงามฯ

*ขอพระองค์ ทรงเจริญ พระชันษา

  ทุกทิวา   ทุกราตรี   ศรีสยาม

  ไร้โรคภัย  หทัยสุข  ทุกโมงยาม

  ถวายความ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพเจ้า นายบริพัตร ศรีธรรม
๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐

"วันคล้ายวันพระราชสมภพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๑๐ ของราชวงศ์จักรี (เป็นปีที่สองที่ทรง
เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ)"

๐ยี่สิบแปด  กรกฎา  มหาฤกษ์

  ตะวันเบิก  ทั่วนภา  ฟ้าสยาม

  วันพระราช  สมภพ  นบทุกยาม

  ดุจองค์ราม   มิ่งฟ้า   สถาพรฯ

๐ขอพระองค์  ยั่งยืน  หมื่นชันษา

  ดังมหา   พระสมุทร   สุดสิงขร

  จงสุขกาย  สุขหทัย  ไร้อาวรณ์

  มิ่งอมร  เป็นขวัญหล้า  ประชาไทยฯ

๐พรอันใด  ที่ประเสริฐ ในเลิศหล้า

  โปรดนำพา  ทุกทิวา  จงสดใส

  ปราศจากทุกข์ สุขฤดี อย่ามีภัย

  เป็นธงชัย  อยู่ดำรงค์  วงค์จักรีฯ

๐สถิตอยู่   คู่นภา   ฟ้าสยาม

  ทุกโมงยาม ประชาไทย ได้สุขศรี

  เป็นมิ่งขวัญ   สถิตไว้   ในฤดี

  ดุจมณี   ศรีสง่า   ฟ้าเมืองไทยฯ

  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

  ข้าพเจ้า นายบริพัตร ศรีธรรม

  ประพันธ์ถวาย  ๒๘/๐๗/๒๕๖๑

"น้ำตกห้วยขมิ้น" จ.กาญจนบุรี

"น้ำตกห้วยขมิ้น" จ.กาญจนบุรี

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ห้วยขมิ้น งามตระการ ธารน้ำตก

  ช่างเวียนวก   ผกผัน   ชั้นภูผา

  ชะวากเว้า   รองรับ   กับธารา

  ตกลงมา   จากฟ้า   หรือว่าไรฯ

๐เห็นธารน้ำ ธารสวรรค์ ฝันบรรเจิด

  แสนประเสริฐ ตะลึงลาน ธารน้ำใส

  ตกเป็นชั้น   ลดหลั่น   คั่นบรรได

  งามไฉไล   เพลินพิศ   ติดตรึงตาฯ

๐มาคนเดียว เปลี่ยวจิต คิดถึงคู่

  ขาดพธู   คู่ใจ   อาลัยหา

  หากมีเจ้า ร่วมเรียง เคียงอุรา

  พี่จะพา   ว่ายวน   ชลธีฯ

๐ห้วยขมิ้น เมืองกาญจน์ สถานถิ่น

  ศรีนครินทร์  อยู่ใกล้  ไม่หลีกหนี

  ฝากไว้ก่อน  จะหวนมา  พาคนดี

  ล่องนที   แหวกว่าย   สายน้ำวนฯ

26/07/57 @ 10.55 น. ต๋อย.(คนพเนจร)

"วันอาสาฬหบูชา"

"วันอาสาฬหบูชา"

๛กลอนแปดสุภาพ๛

๏ขออำนวย อวยพร แด่ทุกท่าน

   วันสำคัญ ของพระพุทธ ศาสนา

   สิบห้าค่ำ เดือนแปด ได้เวียนมา

   อาสาฬหะ  บูชา  เวียนมายลฯ

๏เช้าตักบาตร ทำบุญ กุศลสร้าง

   อย่าแรมร้าง ตั้งจิต สัมฤทธิ์ผล

   ให้สุขศรี  ถ้วนทั่ว  ทุกตัวคน

   บุญจงดล  ญาติกา  บุพการี

๏ค่ำไปวัด เวียนเทียน อีกสามรอบ

   และขอมอบ   บุญญา   สง่าศรี

   ให้พ้นทุกข์  โศกา   บรรดามี

   ให้สุขขี   ใจกาย   สบายตนฯ

๏คิดสิ่งใด  ขอให้ได้  ดังที่หวัง

   ให้มั่งคั่ง  ซื้อหวย  รวยทุกหน

   ชั่วชีวิต    ชาตินี้    อย่ามีจน

   ทุกทุกคน ขอให้รวย อำนวยพรฯ

19/07/2559 @ 10.19 น. หลวงพี่ต๋อย.

"คอยเธอ"(Waiting For You) และ "คนเดียว ที่คิดถึง"

"คอยเธอ"(Waiting For You)

-:กลอนหกสุภาพ:-

๐คอยรัก  ปักจิต  คิดถึง

     ตราตรึง รัญจวน ครวญหา

        ลาร้าง   ห่างไป   ไกลตา

           แลหา เงียบเหงา เฝ้าคอยฯ

๐วันเลื่อน เดือนผ่าน นานนับ

     ลาลับ กลับเศร้า เหงาหงอย

         นั่งคิด   ถึงใคร   ใจลอย

             ใยปล่อย น้องน้อย คอยเธอฯ

๐เดือนเสี้ยว รูปเรียว เกี่ยวฟ้า

     จันทรา   เพ่งพิศ   จิตเผลอ

         วันคืน   ฝืนใจ   ใคร่เจอ

             ละเมอ  เพ้อพร่ำ  ทำใจฯ

๐ค่ำแล้ว  มืดมัว  ทั่วทิศ

      มืดมิด ช้ำจิต หมองไหม้

          น้องนี้  ห่วงหา  อาลัย

              รู้ไหม ทิ้งใคร ให้คอยฯ

แต่งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 บริพัตร.


"คนเดียว ที่คิดถึง"

-กาพย์ยานี ๑๑-

๐คนเดียว        ที่คิดถึง
  
   ยังรำพึง        คนึงหา

   คนเดียว       ที่บูชา

   ยังฝันหา       ทุกคืนวันฯ

๐ในดวงใจ       ดวงนี้

   ยังอยากมี      เธอสร้างฝัน

   ยังเพ้อ            ยังรำพัน

   ยังคอยวัน       สัมพันธ์ใจฯ

๐คนเดียว           ที่เคยรัก
  
   ยังสมัคร           ยังฝักใฝ่

   คนเดียว            ในดวงใจ

   จะใกล้ไกล          ยังใฝ่ชมฯ

๐วันเปลี่ยน            ใจไม่เปลี่ยน

   ไม่หมุนเวียน         แม้ขื่นขม

   แม้ใจ                    จะตรอมตรม

   ไม่ขอชม                ผู้อื่นใดฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

   ๒๖/๐๗/๖๑ @ ๑๘.๐๐ น.

The Beatles

๐She love you ฟังดู ก็รู้แล้ว

  ว่าน้องแก้ว ยังรักอยู่ ไม่รู้หาย

   Love me do มาที่หลัง ฟังสบาย

   รักไม่คลาย ต้องFrom  me to you

   Let it be  ปล่อยมันไป จากใจเถิด

   จะบรรเจิด  เฉิดไฉไล  ไม่อดสู

   Oh my love อีกเพลง บรรเลงดู

   I need you  สุดซึ้ง  สุดตรึงใจ

   No Reply  เหตุไฉน  ใยไม่ตอบ

   เป็นเพลงชอบ อีกเพลง บรรเลงใส

   Help ก็ดี  โปรดช่วย  ด้วยทรามวัย

   อย่าจากไป  เพราะP.S.  I love you

   ที่กล่าวมา  เพียงนิด  ใคร่คิดบอก

   แค่ย้อนยอก  ในอดีต   ให้เธอรู้

   เพราะแค่ไหน   ก็ลอง   หาฟังดู

   I love you  จึงเพียร  เขียนบอกมาฯ

19/03/2558 @ 09.35 น. ต๋อย.

นิทราสวาท

นกอินทรีย์ โผบินไปเกาะปลายกิ่งไม้เล็กๆ
มันไม่ได้เชื่อมั่นในกิ่งไม้ที่มันเกาะอยู่
แต่มันเชื่อมั่นในกำลังปีกของมัน ที่จะโผบินขึ้น ทันทีที่กิ่งไม้หัก
สิ่งที่มีชีวิตทุกชีวิต ต้องมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง
จงอย่าไปพึ่งพาอาศัยความสามารถของผู้อื่น
เพราะมันไม่ได้อยู่กับตัวเราเองไปตลอดชีวิต เราต้องเชื่อมั่นตนเอง และพึ่งตนเอง เพราะตนเองเท่านั่น ที่เป็นที่พึ่งของตนเอง.....
คนพเนจร..

"นิทราสวาท"

-กลอนแปดสุภาพ-

 💛พรหมสร้างสรร ให้จันทร์ อยู่คู่ฟ้า

      ดุจมัจฉา  เคียงอยู่  คู่สายชล

      สกุณา   มีแมกไม้  ให้ยินยล

      ชีวิตคน   มีคู่   อยู่ทั่วกันฯ

💚หญิงและชาย เคียงคู่ กับชู้ชื่น

     จะหลับตื่น  ชื่นใจ  ได้ใฝ่ฝัน

     แต่บางคู่ พลัดพราก ต้องจากกัน

     เหมือนสวรรค์ ลิขิต ให้ผิดไปฯ

💙ยามนิทรา  กอดเธอ  แล้วเพ้อฝัน

     ขอให้มั่น  ในรัก  อย่าผลักไส

     รักแนบแน่น ผูกรัด มัดหัวใจ

     สองหทัย รวมไว้ เป็นหนึ่งเดียวฯ

💖ดาวคู่เดือน เหมือนเรา อยู่เคียงข้าง

     อย่าแรมร้าง ห่างหาย ไม่แลเหลียว

     ผูกสลัก   รักไว้   ให้กลมเกลียว

     โอ้รูปเรียว  โชคดี  ที่มีเธอฯ

25/07/56 @ 22.07 น. ต๋อยครับ!
นิทราสวาท นพดฬ ชาวไร่เงิน ขับร้อง เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ มิ.ย.ที่ผ่านมา

้านอาหารจันท์คณา

    (เชลส์ชวนชิม)

*อยากเชิญชวน เพื่อนพ้อง มาลองนั่ง

  และเชิญสั่ง อาหาร มีมากหลาย

  ทั้งเขียวหวาน ลูกชิ้น เนื้อปลากราย

  ผัดหอยลาย น้ำพริกเผา เราก็มีฯ

*โอ้ผ้ดไท แกงเลียง เคียงกุ้งสด

  อีกปลากด กระพงทอด สอดพริกสี

  กระพงนึ่ง บีบมะนาว เนื้อขาวดี

  จะฉู่ฉี่  หรือลวกจิ้ม  นิ่มลำคอฯ

*ลองแกงเผ็ด เป็ดย่าง บ้างก็ได้

  อร่อยหลาย เห็นแล้ว น้ำลายสอ

  เกี๊ยวห้อชีส แหนมซี่โครง ก็ยังรอ

  พาคุณพ่อ ลูกหลาน มาทานกันฯ

*มีอาหาร มากมาย อีกหลายอย่าง

  ทั้งปิ้งย่าง ทอดนึ่ง ให้เลือกสรร

  จันท์คณา  ร้านนี้  เปิดทุกวัน

  เชิญทุกท่าน มาชิม ลิ้มลองดูฯ

"วงนอก" รับประกันคุณภาพครับ

26/07/60 คนชื่อต๋อย.

ลำนำเพลง "จงรัก" และ "Lonesome Me"

"จงรัก"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐โปรดอย่าถาม ฉันคือใคร ในอดีต

   เพราะมันกรีด เฉือนใจ ในความหลัง

   และอย่าถาม   ว่ารัก   จักจีรัง

   โปรดอย่าหวัง  ว่ารัก  จักมั่นคงฯ

๐ รู้ไว้เถิด    เดี้ยวนี้    ว่าพี่รัก

   พี่สมัคร   ปักใจ   ใฝ่ประสงค์

   รักของพี่  ขอมอบไว้  ให้อนงค์

   รักมั่นคง   แค่ไหน   ถามใจดูฯ

๐ โปรดอย่าถาม  ว่ารักพี่  ที่มีให้

   นานแค่ไหน    หัวใจ    ยังไม่รู้

   แต่เดี้ยวนี้   ใจพี่ภักดิ์   รักพธู

   ทุกฤดู    ชั่วกาล    นานนิรันดร์ฯ

๐ อย่าเพียรถาม  นานเท่าใด  ที่ใจรัก

   แล้วอย่าปัก  คิดเพ้อไป  ในความฝัน

   เพราะรักนี้    มีไว้    ให้แจ่มจันทร์

   หมดสัมพันธ์  เมื่อหมดลม  อย่าตรมเลยฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

   ๒๔/๐๗/๖๑ @ ๑๙.๐๙ น.

"Lonesome Me"

~กลอนหกสุภาพ~

♤อยู่เดียว เปลี่ยวจิต คิดถึง

   รำพึง ใจลอย คอยหา

   เคยแอบ แนบชิด นิทรา

   ร้างลา จากไป ไกลกันฯ

♡หัวใจ ระบม ตรมเศร้า

   หงอยเหงา เศร้าใจ ใฝ่ฝัน

   ยามนอน นิทรา จาบัลย์

   โศกศัลย์ โหยหา อาวรณ์ฯ

◇ฝนมา ฟ้ามัว ทั่วทิศ

   ฟ้าปิด จิตตรม ลมถอน

   ลมรัก หักหาย คลายคลอน

   เขียนกลอน วอนรัก ปักใจฯ

♧เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย กายเหงา

   อกเฉา เศร้าซม ตรมไหม้

   เธอมา ลาร้าง ห่างไกล

   รู้ไหม ทิ้งใคร ให้คอยฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

   ๐๗/๐๙/๖๐

"เขาค้อ รอรัก"

"เขาค้อ รอรัก"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐โอ้เขาค้อ  ถิ่นแคว้น  แดนสวรรค์

  จวนเหมันต์   มืดมัว   สลัวอยู่

  ยามวสันต์  ฝนพรม  ชมพธู

  มองเห็นภู  งามสลับ  จับนภาฯ

๐มีวัดงาม  นามกระเดื่อง  ลือเรื่องชื่อ

  คนเล่าลือ    ว่างาม    นามภูผา

  ซ่อนแก้วไว้  อยู่บนภู  ดูงามตา

  สูงเสียดฟ้า  ดุจวิมาน  สถานทองฯ

๐ขอเชิญชวน  ท่านมาชม  บรมธาตุ

  สวยสอาด  กว้างใหญ่  ไม่เป็นสอง

  ทิวทัศน์งาม หมอกคลุมฟ้า ชวนน่ามอง

  หมอกประคอง ท้องนภา ท้าให้ยลฯ

๐ยิ่งปลายฝน  ต้นหนาว  ขาวสอาด

  ดารดาษ   หนาวระยับ  จับขุมขน

  หากได้มา   กับน้อง   เพียงสองคน

  จะสุขล้น  เหมือนสวรรค์  ชั้นวิมานฯ

24/07/57 @ 18.08 น. ต๋อยครับ.
แต่งสดๆตามคำขอของคุณสิทธิชัย  สินธพ (ไก่)

"เกาะ รอ กลอย" จ.สตูล

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐เกาะรอกลอย คอยรัก มาพักผ่อน

  มาพักร้อน คลายทุกข์ สุขหรรษา

  มีชายหาด  มองเพลิน  เจริญตา

  หมู่พฤกษา รายรอบ ขอบมณฑลฯ

๐เป็นเกาะเล็ก ไม่ใหญ่ ใสสอาด

  คนต่างชาติ มุ่งมา ทุกแห่งหน

  อีสานเหนือ  ก็มา  พากันยล

  ทุกทุกคน  มุ่งหน้า  มาสตูลฯ

๐โอ้เจ้ากลอย   คอยรัก   สลักมั่น

  คอยความฝัน เพื่อนใจ ในไอสูรย์

  ยามทอแสง  จากนภา  มาเกื้อกูล

  เจิดจรูญ    ยามลับ   จับธาราฯ

๐โอ้นามเอ๋ย  ไพเราะ  ชื่อเกาะแก่ง

   ดุจใครแต่ง  สร้างไว้  ให้หรรษา

   เกาะรอกลอย  คอยเธอ  เสมอมา

   โปรดเมตตา อย่าไป ไกลจากกลอยฯ

24/07/57 @ 16.47 น. ต๋อยครับ.

"Lonesome Me"

~กลอนหกสุภาพ~

♤อยู่เดียว เปลี่ยวจิต คิดถึง

   รำพึง ใจลอย คอยหา

   เคยแอบ แนบชิด นิทรา

   ร้างลา จากไป ไกลกันฯ

♡หัวใจ ระบม ตรมเศร้า

   หงอยเหงา เศร้าใจ ใฝ่ฝัน

   ยามนอน นิทรา จาบัลย์

   โศกศัลย์ โหยหา อาวรณ์ฯ

◇ฝนมา ฟ้ามัว ทั่วทิศ

   ฟ้าปิด จิตตรม ลมถอน

   ลมรัก หักหาย คลายคลอน

   เขียนกลอน วอนรัก ปักใจฯ

♧เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย กายเหงา

   อกเฉา เศร้าซม ตรมไหม้

   เธอมา ลาร้าง ห่างไกล

   รู้ไหม ทิ้งใคร ให้คอยฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

   ๐๗/๐๙/๖๐

"ขอน้อมส่งเสด็จพระองค์ท่าน สู่สวรรคาลัย"

"ขอน้อมส่งเสด็จพระองค์ท่าน
สู่สวรรคาลัย"

-กลอนแปดสุภาพ-

*ที่สิบสาม  ตุลา  มหาโศก

  ไทยวิโยค โศกถวิล ปิ่นเวหา

  พระปรมินทร์ สู่สวรรค์ ครรไลลา

  องค์ราชา ภูมิพล พระทรงพลฯ

*เทวษไห้  อาลัยรัก  ภักดิ์เสมอ

  ได้พบเจอ  ในชาตินี้  มีกุศล

  ขอเป็นข้า รองทุกชาติ บาทยุคล

  เป็นบุญล้น ที่เกิดมา เป็นข้าไทฯ

*ขอให้ท่าน สู่สวรรค์ บนชั้นฟ้า

  ดุสิตา   ภูมมา   ชลาศัย

  สุวรรณา วิมานทอง ผ่องอำไพ

  มีข้าไท  รองรับ  ชั่วกัปกัลป์ฯ

*เจ็ดสิบปี  ทรงทำนุ  บำรุงสุข

  ขจัดทุกข์ ปวงประชา พาสุขสันต์

  พระคุณพ่อ  มากล้น  พ้นรำพัน

  สุดจะสรร  อักขรา  มาว่าวอนฯ

*สุดพื้นฟ้า สุดพื้นดิน ถิ่นสยาม

  ทุกเขตคาม เคารพ นบคำสอน

  ดวงหทัย งามเลิศ ประเสริฐพร

  จึงเขียนกลอน วอนไว้ ให้พระองค์ฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพเจ้า นายบริพัตร ศรีธรรม
14 ตุลาคม 2559 @ 17.25 น.

"น้อมส่งเสด็จ สู่สวรรคาลัย"

-:โคลงสี่สุภาพ:-

๐ยอกรวันทาเจ้า     เหนือหัว

  หัวใจสั่นระรัว       หมองไหม้

  แต่นี้ไม่มีตัว          ท่านอยู่

  จำทุกข์เทวษไห้     โศกเศร้าร้าวรอนฯ

๐พระเสด็จจากแล้ว   พ่อเอย
 
  สู่สวรรคาลัยเลย     ชั้นฟ้า

  พระคุณที่ท่านเคย   ขอเก็บ ไว้นา

  นิราศร้างสุดหล้า     ข้าบาทมิลืมฯ

๐ขอจำขอจดไว้    ในใจ

  จำจดน้ำพระทัย  องค์ท่าน

  พสกแม้อยู่ไกล   ทรงเยี่ยม

  ฟากฟ้ามิอาจกั้น ความภักดิ์รักองค์ฯ

๐สองมือก้มกราบไท้   ภูมิพล

  น้ำตาหลั่งรินล้น        เอ่อเบ้า

  ดอกไม้จันท์วางบน   พานแท่น

  ต่อแต่นี้คงเศร้า         ห่วงหาอาวรณ์ฯ

ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพเจ้า นายบริพัตร ศรีธรรม
ประพันธ์ถวายองค์พระภูมิพลฯ
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ @ ๒๒.๒๒ น.

"น้อมส่งเสด็จ สู่สวรรคาลัย"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐หนึ่งปี  ที่ผ่านไป  ช่างไวนัก

   เห็นพระพักตร์ ท่านทรง ดำรงอยู่

   องค์บพิตร  ปิตุเรศ  เดชธนู

   สถิตอยู่ ในดวงจิต นิจนิรันดร์ฯ

๐วิปโยค โศกเศร้า เร้ารอนจิต

   คนึงคิด  ถึงภูมินทร์  ปิ่นถวัลย์

   เทวษไห้  ใจพะวง  องค์ราชัน

   มิเว้นวัน  ยังประทับ  กับฤดีฯ

๐จากสิบสาม  ตุลา  ปีห้าเก้า

   เคยกราบเท้า บาทบงสุ์ พระทรงศรี

   ท่านจากไป สู่ชั้นฟ้า สุขาวดี

   ประชาชี คร่ำครวญ รัญจวนใจฯ

๐เห็นพระเมรุ สุดอาลัย ใจจะขาด

   เมรุมาศ  งามสง่า  น่าเลื่อมใส

   ถวายพระเพลิง พระบรมศพ นบอาลัย

   น้ำตาไหล ร่วงรุ่ง ทุ่งพระเมรุฯ

ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพเจ้า นายบริพัตร ศรีธรรม
ประพันธ์ถวายพระองค์ภูมิพลฯ
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ @ ๒๒.๒๒ น.

I Can't Tell You Why

I  Can't  Tell  You  Why. (EAGLE)

๐ไม่อาจบอก  ทำไม  ให้ใครรู้
      ควรคิดดู   ว่าใจ   ใช่มีสอง
          พี่ไปเที่ยว หกวัน ใช่เมินมอง
              ใยตัวน้อง หาเรื่อง มาเคืองกันฯ

๐ไปพักผ่อน ทำใจ ให้หายเศร้า
      ใช่ว่าเหงา พบเพื่อน เลยสังสรรค์
          ก็ดื่มกิน กับพวกพ้อง สองสามวัน
              กลับงอนกัน  ออนมา  ไม่พาทีฯ

๐โอ้บนฟ้า มีตะวัน อยู่ดวงหนึ่ง
      ช่างงามซึ้ง สวยเลิศ เฉิดฉวี
          ยามตะวัน  ลับฟ้า  ลานที
              ก็ยังมี  จันทรา  พงางามฯ

๐อยากบอกว่า คิดถึง ตรึงดวงจิต
     อยากใกล้ชิด เคียงคู่ อยู่หวาบหวาม
          ได้แต่คิด   ไม่กล้า   จะบอกความ
              โอ้นงราม   ทำไม   ใจจึงกลัวฯ

23/07/57 @ 10.07 น. TOIEY.

"เหม่อ"

"เหม่อ"

-กลอนแปดสุภาพ-

๐เหม่อมองทุ่ง ท้องนา ล่าความฝัน

  เหม่อมองจันทร์ ในนภา สง่าศรี

  เหม่อมองใน ใจบุรุษ และสตรี

  เหม่องมองสี แสงอรุณ อุ่นทรวงในฯ

๐อันพื้นนา  มีหญ้า  และรวงข้าว

  อันพื้นฟ้า  ช่างขาว  และสดใส

  อันพื้นน้ำ   เย็นย่ำ  ฉ่ำหทัย

  อันพื้นใจ   คนนี้   มีแต่ลวงฯ

๐มองเห็นทุ่ง ร้าวจิต คิดถึงเพื่อน

  มองเห็นเดือน ไม่มีใคร ให้ห่วงหวง

  มองเห็นดาว ร้าวรวด เจ็บปวดทรวง

  มองเห็นรวง  จากไป  ไกลท้องนาฯ

๐เจ้าจากไป  ไกลลับ  ไม่กลับแล้ว

  เจ้าจากแก้ว  ลาลับ  ไม่กลับหา

  เจ้าจากพี่   ไปลับ   ไม่กลับมา

  เจ้าจากลา  ชายที่ดี  คนนี้ไปฯ

15/03/57 @ 17.17 น. ชายต๋อย

อ่านแล้วชอบ...

"บั้นปลายชีวิต"

ชีวิตผ่าน  เลยไป  จนไกลลับ
ไม่หวนกลับ  คืนมา  หาไฉน 
ทั้งพ่อแม่  สิ้นชีวา  พิราลัย 
ลูกในไส้ ก็หลีกลี้ มีครอบครัวฯ

อีกแมวหมา เลี้ยงมา ก็ลาจาก
เจ้ามาพราก จากไป ใจสลัว
ก็เหงาบ้าง ตามวัย ใจไม่กลัว
เพราะว่าตัว ยังมีเพื่อน ไม่เลือนไกล

บ้างส่งไลน์ มาทัก ว่ารักอยู่ 
บอกให้รู้ ถึงไมตรี ดีไฉน 
ส่งดอกไม้ บอกคิดถึง ทุกวันไป
บอกความนัย ข่าวลือ สื่อหากันฯ

ทั้งงานรุ่น งานอะไร ควรไปบ้าง
จะได้สร้าง ความสนุก พาสุขสรรค์
                          เพราะไม่รู้ วันไหน ต้องไกลกัน                           
สิ้นอาสัญ พบอีกครา ที่หน้าเมรุฯ 

ต๋อย.(คนพเนจร)

๒๕/๑๒/๒๕๕๙                                                             

ฝากให้เพื่อนๆทุกคน

"โถชีวิต"

"ชีวิตคนจนบางคนต้อง
ตรากตรำทำงาน ยาวนาน
จนไม่มีเวลาแม้แต่จะหยุดถอนหายใจ
หรือปาดเหงื่อแห่งความทุกข์ยาก
พ่อบางคนต้องรับภาระหลายปาก
หลายท้องเหลือเกินในบ้านของเขา
มันเป็นพันธะที่ยิ่งใหญ่และยาวนาน
ของชีวิต....ความตายเท่านั้น ที่จะปลดพันธะนี้ ออกไปจากตัวได้

"ชีวืตของคนเรา ไม่มีภาระใดยิ่งใหญ่กว่าการดับความหิว
และไม่มีสิ่งใดน่าเสน่หาเท่ากับความอิ่ม  ทุกคนดิ้นรนเพื่ออะไร
ถ้าไม่ใช่เพื่อหาอาหารใส่ปากใส่ท้อง  ถึงได้ไม่ครบมื้อ
ก็ขอเพียงให้ได้ครบวัน......เกียรติ....ยศ......สรรเสริญและ
ลาภเป็นสิ่งที่ไขว่คว้าหา  เมื่อท้องอิ่มแล้วต่างหาก!"

บทสุดท้ายของนิยายรัก

บทสุดท้ายของนิยายรัก

๏ จริงหรือนี่ ที่ว่ารัก เราจักร้าว
นึกแล้วหนาว เหน็บนัก แก้วรักเอ๋ย
รสสัมผัส อ่อนละมุน ที่คุ้นเคย
ไยจึงเผย รสร้าง จืดจางกัน

เราเคยร่วม ใจฝัน ว่าวันหนึ่ง
เราจะถึง วันที่งาม เหมือนความฝัน
ฟ้าสีทอง ดอกไม้บาน ธารพระจันทร์
และรักอัน คงค่า สถาพร

ฉันเฝ้ารอ คอยวัน ที่ฝันไว้
รอด้วยรัก ด้วยใจ ไม่ถ่ายถอน
แต่นี่สร้อย สายสวาท มาขาดตอน
เธอกล้ารอน ลงด้วยมือ เธอหรือไร

เมื่อเธอสิ้น เสน่หา มาสนอง
รักที่ปอง มอดหมด ความสดใส
แผลรักร้าย บ่อนทั่ว เนื้อหัวใจ
จะต้องปวด ร้าวไป ถึงไหนกัน

ดอกรักบาน ในหัวใจ ใครทั้งโลก
แต่ดอกโศก บานใน หัวใจฉัน
และอาจเป็น เช่นนี้ ชั่วชีวัน
เมื่อรักอัน แจ่มกระจ่าง กลับร้างไกล

นิยายรัก ยืดยาว ของเรานั้น
คงไร้วัน สดชื่น ขึ้นบทใหม่
หมดความหมาย ที่จะรอ กันต่อไป
เพราะเปลวไฟ รักดับ ลงกับตา ๚

เฉลิมศักดิ์ (ศิลาพร) รงคผลิน
พ.ศ. 2511

"ลืมแล้วหรือสัญญา"

"ลืมแล้วหรือสัญญา"

~กาพย์ยานี ๑๑~

😍ลืมแล้ว หรือดวงใจ

     ว่ามีใคร คอยเธออยู่

     ลืมแล้ว หรือโฉมตรู

     ยอดพธู  คู่หทัยฯ

😘เคยพร่ำพลอด กอดน้อง

     เคยนั่งมอง ท้องธารใส

     เคยสัญญา  ให้ใคร

     เหตุไฉน  ใยลืมคำฯ

😛ฟ้าดิน  เป็นพยาน

     เคยสาบาน กับงามขำ

     พูดไว้  ใยไม่จำ

     เธอใจดำ ทำพี่ลงฯ

☺สามวัน  ก็ลืมแล้ว

     ดุจดังแก้ว แตกเป็นผง

     หัวใจ  ของโฉมยงค์

     นั้นไม่ตรง  กับวาจาฯ

😒ตะวันรอน  จรจาก

     ตะวันพราก จากนภา

     เช้าขึ้น  ยังกลับมา

     ตามสัญญา เบิกฟ้านวลฯ

😉สัญญา  ที่เธอให้

     แต่เธอไป ไม่คืนหวล

     หัวใจ  พี่คร่ำครวญ

     เจ้าเรรวน สวนตะวันฯ

22/07/56 @16.41 น.
"นักเลงกลอน นอนเปล่า ก็เศร้าใจ
ต้องร่ำไร  เรื่องร้าง  เล่นบ้างเอย"
                         คนชื่อต๋อ

ปาหนัน

“ปาหนัน”

 เจ้าปาหนัน ชูช่อ ล้อลมหนาว
เสน่ห์พราว กลิ่นพรม เมื่อลมหวน
มีหนามคม สนมเนื้อ เหมือนเชื้อชวน
ให้เชยนวล ชวนเคล้า เจ้านงคราญ

หมู่ภมร ใกล้ไกล ไฝ่หาเจ้า
หวังเคลียเคล้า ชิมรส สดชื่นหวาน
อันหนุ่มสาว เหมือนเชื้อไฟ ใกล้ไม่นาน
ก็แหลกราน ด้วยฤทธา สุขารมย์

เมื่อแรกรัก แรกรส ก็สดชื่น
เพียงชั่วคืน ผ่านลับ กลับขื่นขม
สัญญารัก ปลิวไสว ไปกับลม
ได้ชื่นชม แล้วบินไป ไม่ต้องการ

แสนสงสาร เจ้าปาหนัน พลันกลีบร่วง
ถูกลมลวง พล่าใจ ดังไฟผลาญ
ขยี้รัก อันใสซื่อ ด้วยมือมาร
สุดร้าวราน โหยไห้ ไม่เว้นวัน

วีระพล สุขเจริญ
21 กรกฎาคม 2018

"พยายาม ต่อไป เพราะใจรัก
ได้สลัก อักขรา ภาษาศิลป์
มีความสุข กับสิ่ง ที่ยลยิน
ดุจนกบิน เล่นนภา ถลาจร

ไม่มีใคร เก่งดอก จะบอกให้
อยู่ที่ใจ ของเรา ไม่ทอดถอน
อีกไม่นาน ก็จะเลิศ ประเสริฐพร
มีคำกลอน สถิตใน หัวใจตนฯ


พี่ขอเอาใจช่วยนะ....

Traveling Man
22 July 2018

สัจจะธรรมของชีวิต

"สัจจธรรมของชีวิต"

~กลอนแปดสุภาพ~

○อันมนุษย์ เกิดมา ในหล้าโลก
   
    มีแต่โศก ไร้สุข ทุกข์หนักหนา

    สุขที่เห็น เป็นแค่ ภาพลวงตา

    อย่าใฝ่หา อยู่เลย ไม่เคยมีฯ

♤เกิดแล้วแก่ เจ็บกาย ไม่วายทุกข์

    สิ้นความสุข ทุกข์ใจ ไม่สุขศรี

    เข้าโรงหมอ ร้าวรวด ปวดฤดี

    เพราะกรรมมี กรรมซัด วิบัติไปฯ

 ♡ขอให้ท่าน ทั้งหลาย โปรดได้รู้

    ขอจงสู้ กำหนดจิต ให้ผ่องใส

    ทุกข์ทุกอย่าง เกิดขึ้น เพราะจิตใจ

    สู้ต่อไป ทำสิ่งดี ได้หนีกรรมฯ

◇ขอให้บุญ ทำมา ช่วยพาท่าน

    ให้สุขสันต์ สุขใจ ไม่ถลำ

    ถึงเจ็บป่วย อย่างไร ใจต้องนำ

    ยึดพระธรรม นำกาย จะหายเร็วฯ

♧ท้ายที่สุด แห่งกลอน ที่วอนว่า

    เกิดชรา เจ็บตาย คล้ายลงเหว

    เพราะชีวต ดุจดังเทียน ใกล้หมดเปลว

    จะช้าเร็ว ก็ต้องตาย วายชีวาฯ

□หายใจเข้า ว่าพุทธ สุดประเสริฐ

    จะบังเกิด พลังรู้ สู้ปัญหา

    ออกว่าโธ ขอให้กาย ไร้โรคา

    อวยพรมา ให้พ้นทุกข์ มีสุขเอยฯ

    ต๋อย.(คนพเนจร)

    ๒๑/๐๗/๖๑ @ ๑๗.๐๐ น.

การเวก

"บ่ายคล้อ  ยกลิ่นหวล  รัญจวนใจ
การเวก..ไม้ไทย  กล่าวขานถึง
น้ำอบไทย  กลิ่นร่ำ  หวลคนึง
กลิ่นฝังตรึง  ซึ้งใจ  ในเทศกาล

ซุ้มไม้เถา  ให้ร่ม  เงาพันผูก
นิยมปลูก  ถูกใจ  ไว้หน้าบ้าน
บ่ายเย็นย่ำ  ถึงค่ำ  หอมเบิกบาน
สุขสำราญ  ชุ่มฉ่ำใจ...เมื่อได้ดม"

มนู สุขศรี
2 มีนาคม 2559


"ยามบ่ายคล้อย กลิ่นเจ้าหวล รัญจวนจิต
การเวกพิศ ไม้ไทย สุดไขขาน
ดั่งน้ำอบ หอมซึ้ง ตรึงใจนาน
เทศกาล หอมอยู่ มิรู้คลายฯ

ซุ้มไม้เถา ในร่ม นิยมปลูก
จิตพันผูก ปลูกดม ชมจนสาย
จวบบ่ายเย็น เห็นนภา ดาราราย
หอมไม่วาย หอมรัญจวน  ชวนชิดชมฯ

Traveling Man
21 July 2018

ห่วงอาลัย

"ห่วงอาลัย"

-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐โอ้อาลัย  ใจหาย  ไม่วายห่วง

   เจ้าพุ่มพวง   ดวงจิต   พิสมัย

   ยามจากกัน  จากนุช  สุดอาลัย

   ฝากหัวใจ  ฝากฤดี  นี้ให้เธอฯ

๐จะไกลใกล้  แค่ไหน  ใจก็คิด
  
   จะมอบจิต  มอบใจ ให้เสมอ

   เพราะหัวใจ  พี่ใคร่  ใฝ่บำเรอ

   อยากพบเจอ นงนุช สุดอาลัยฯ

๐อันตัดอื่น หมื่นแสน ในแดนหล้า

   ตัดกามา   ไม่หลุด   สุดสงสัย

   เพราะความรัก แนบสนิท ติดกับใจ

   สุดอาลัย  สุดห่วงหา  สุดอาทรฯ

๐แหงนมองฟ้า  ก้มดูดิน  ถวิลคิด

   พรหมลิขิต   ให้ภักดิ์   รักสมร

   ถึงจากแล้ว  ก็ยังภักดิ์  รักบังอร

   ยังอาวรณ์  ยังห่วงหา  ยังอาลัยฯ

   ต๋อย.(คนพเนจร)

   ๑๗/๐๗/๖๑ @ ๑๗.๑๗ น.