Friday, July 27, 2018

บทกวี "น้ำเต็มอ่าง(ทอง)"

 
บทกวีโดย "TRAVELING MAN"

"น้ำเต็มอ่าง(ทอง) ปี พ.ศ. 2554"
-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐ต.โผงเผง ป่าโมกข์ ช่างโศกนัก
      น้ำทะลัก  เข้าท่วม  ร่วมเดือนกว่า
           ทั้งเด็กเล็ก  ผู้เฒ่า  เศร้าอุรา
               นองน้ำตา  น้ำนอง  ต้องระทมฯ

๐ไร้อาหาร  การกิน  สิ้นที่อยู่
     ใครจะรู้  ใจเรา  เศร้าขื่นขม
          รอรัฐช่วย ด้วยใจ ใยกลับตรม
              กลับต้องจม สุดกล้ำ ร่ำน้ำตาฯ

๐อนิจจา เสือกเกิดมา อยู่ที่ลุ่ม
      ก็ต้องกลุ้ม อยู่ไป จนชาติหน้า
          อันชาตินี้   ทนอยู่   สู้ชีวา
              เพื่อไทยมา เพื่อใคร ใจข้าตรมฯ

๐เพื่อทักษิณ เพรียวพันธ์ หรือเพื่อข้า
      เพื่อเธอมา   ข้านี้   กลับขื่นขม
           เลือกเธอมา พากาย ใจระทม
               ไร้สุขสม   จมอยู่   กับนาวาฯ

๐อันชีวิต   คนจน   ต้องทนได้
      ถึงยากไร้ ไม่สุข ทุกข์หนักหนา
          รอชีวิต   สิ้นไป   ไร้ราคา
              สิ้นชีวา  สิ้นใจ  ใครจะมองฯ

๐จนปีแล้ว  ปีเล่า  เขาไม่ช่วย
      ปล่อยให้ม้วย จากไป ใจหม่นหมอง
           ไม่ใช่มิตร  หรือญาติ  ที่เกี่ยวดอง
               จะประคอง   ไว้ใย   ไม่นำพาฯ

๐โอ้ป่าโมกข์ โศกเศร้า เฝ้าแต่ทุกข์
       ไม่มีสุข   ไม่มีใจ   ไม่หรรษา
            มีแต่น้ำ  นองหน้า  กับนาวา
                เจ้าพระยา ทำช้ำ จำต้องทนฯ

๐ถ้าชาติหน้า  มีจริง  ดังเขาว่า
      ขอเกิดมา รวยดีกว่า อย่าขัดสน
          ขออยู่ไกล  ธารา  อย่าให้จน
               อย่าพบคน ไม่ดี ทุกปีเอยฯ

แต่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554


ไม่เคยลืม




"ไม่เคยลืม"

"เราไม่เคย  เห็นค่า  เวลารัก
ไม่รู้จักวัน  มีกันมัน  สุขไหม
จนวันจาก  คิดถึง  จึงเข้าใจ
วันเวลานั้น  ไม่ย้อน  กลับคืน

เราไม่รู้  คนสำคัญ  นั้นมีค่า
ตราบจนกว่า  ยื้อยุด  ก็สุดฝืน
ความคิดถึง  โหมใส่  ดั่งไฟฟืน
ทนกล้ำกลืน  ร้าวใจ  ไม่เคยลืม"

วีระพล สุขเจริญ
28/07/2017














บทกวี "พยับหมอก"



"พยับหมอก..ดอกงามนามน่ารัก
มาทายทักวันศุกร์สนุกสนาน
ช่างเฉิดโฉมไฉไลหาใดปาน
ยามดอกบานสวยสง่าสีฟ้าคราม
....ช่างสุขตาสุขใจเมื่อได้เห็น
ทั้งเช้า-เย็นโดดเด่นเป็นนักหนา
หอมระรินรมย์รื่นชื่นอุรา
งามสง่าดังว่าน่ารักจริง
....เป็นไม้ดอกที่เย็นตาสีฟ้านวล
แย้มยวนในกระถางช่างงามยิ่ง
ปลูกประดับงามเลิศดูเพลิดพริ้ง
สวยจริง"พยับหมอก"...ออกดอกทั้งปี"

มนู สุขศรี

บทกวี เที่ยวเมืองเหนือ

 บทกลอนชุด "เที่ยวเมืองเหนือ" 
ประพันธ์โดย 08:51 คนเพนจร "TRAVELING MAN"

 "เที่ยวเมืองเหนือ 2."
-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐จากลำปาง ร้างลา น้ำตาตก
  เจ็บหัวอก  ดุจใคร  มาผลักไส
  อยู่ไม่ได้  แล้วหนา  ขอลาไกล
  ทิ้งหัวใจ  แสนอาลัย  จำใจลาฯ

๐เข้าแม่ทา  เหมืองกี้  ทางดีนัก
  ซึ้งสลัก  ขึ้นลงดอย  ร้อยภูผา
  ออกป่าซาง เลี้ยวซ้าย ปลายทางมา
  เพราะอุรา  สั่งให้  ไปจอมทองฯ

๐ทางแยกไป  อินทนนท์  คนรู้ทั่ว
  ช่างมืดมัว  มีหมอก  หลอกเราสอง
  เหมือนเชิญชวน ให้เรา  ขึ้นไปลอง
  โอ้พี่น้อง  หนาวจริงจริง  อิงยอดดอยฯ

๐อยู่บนดอย  สองราตรี  ยังมีเจ้า
  หนาวโลมเล้า อย่างไร ก็ไม่ถอย
  แต่ต้องจาก เพราะว่า มีคนคอย
  ลงจากดอย ไปเชียงราย ตอนสายวันฯ

๐ไม่ผ่านเมือง เชียงใหม่ เพราะไกลนัก
  ถึงจะรัก    อย่างไร    ไกลเกินฝัน
  ดอยสะเก็ด  เข็ดแล้ว  คงแคล้วกัน
  ต้องจาบัลย์   เจ็บช้ำ   ระกำใจฯ

๐ถึงแม่สาย  บ่ายกว่า  รถราติด
  มีมิ่งมิตร    รออยู่    ดูไฉน
  จัดที่พัก  เรือนรอง  สุดไฉไล
  ขอขอบใจ  ไมตรี   มีให้กันฯ

๐ฝากคำกลอน  วอนไว้  เพียงแค่นี้
  ขอคนดี    มีหัวใจ   ให้กับฉัน
  คงจะมี ตอนใหม่ใหม่ ไม่นานวัน
  โอ้จอมขวัญ รอพี่ที Love me soฯ

31/10/2558 @ 20.20น. 


"เที่ยวเมืองเหนือ 3 "
-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐คืนวันแรก  ที่แม่สาย  สหายมาก
  เพราะว่าจาก  ร้างไป  จนไกลโข
  วีระพงษ์    สองคน    มานั่งโชว์
  น้องคนโก้   คงฤทธ์   ผู้มาไกลฯ

๐ได้ดื่มกิน  เบียร์ลาว  ก็คราวนี้
  เพื่อนคนดี  เลี้ยงรับ  ไม่ขับไส
  จัดที่พัก   อย่างดี   มีน้ำใจ
  จะจำไว้   ในไมตรี   ที่มีมาฯ

๐วันที่สอง  มุ่งหทัย  ไปเชียงแสน
  ไปแว่นแคว้น  โบราณ  เคยฝันหา
  ไหว้พระธาตุ   ผาเงา   กราบวันทา
  โปรดเมตตา  อวยชัย  พ้นภัยพาลฯ

๐มื้อกลางวัน  นั่งครัวไท  ชมสายน้ำ
  ฟ้างามล้ำ    ฟากฝั่ง    เมืองสยาม
  โอ้เมืองเชียง  เรียงรัก  ประจักษ์นาม
   ฟ้าสีคราม   รามรักษ์  ประจักษ์ใจฯ

๐กลับมานอน  ที่แม่สาย  สบายจิต
  ขอบใจมิตร   และไมตรี   ที่มีให้
  เช้าพรุ่งนี้ โอ้เพื่อนยา  ขอลาไกล
  จำจากไป ใจคนึง  ถึงเมืองเชียงฯ

๐จากเมืองเชียง  เลี้ยวขวา  ขอลาแล้ว
  จากน้องแก้ว  ไปพะเยาว์  ลาสาวเสียง
  พักเชียงใหม่  เชียงรายชิด  ติดสำเนียง
  สองเมืองเชียง  เรียงร้อยรัก  ปักหัวใจฯ

๐หมดเวลา   แล้วหนา   ขอลาก่อน
  ขอจบกลอน   หมดแรง   แถลงไฃ
  ยังไม่จบ   เพราะยังมี   ตอนต่อไป
  ซึ้งน้ำใจ   สายสนิท   มิตรสัมพันธ์ฯ

05/11/2558 @  18.41 น. 



"เที่ยวเมืองเหนือ 4 "
-:กลอนแปดสุภาพ:-

๐พอตอนสาย ผ่านสถาน บ้านร่องขุ่น
  มองเห็นหุ่น   นั่งเก้าอี้   สีสุกสัน
  ใครกันหนอ   สร้างไว้   ทำไมกัน
   อยู่เขตขันธ์   ธะสีมา   สถาพรฯ

๐วัดร่องขุ่น  เชียงราย  มาหลายครั้ง
   ดุจมนต์ขลัง   ฝังใจ   ยากไถ่ถอน
   ผ่านคราใด  ถ้าเลยไป  ใจอาวรณ์
   ต้องขับย้อน  กลับมาชม ให้สมใจฯ

๐ออกจากวัด  วันทา  ก่อนลาจาก
  มาทางตาก  เส้นทาง  ไม่ผ่องใส
  เพราะมีการ  ทำทาง  เป็นช่วงไป
  เลยตั้งใจ จะพักผ่อน นอนลำปางฯ

๐ถึง Big C.    ลำปาง    ทางก็โล่ง
  เส้นทางโยง ใกล้ที่พัก  ไม่ไกลห่าง
  ซื้อขนม  ของชาวบ้าน ตามเส้นทาง
  ที่บนห้าง   ขายกัน   วันหยุดงานฯ

๐ตอนเย็นย่ำ  ค่ำมา  หาที่ดื่ม
  ฟ้ามันครึ้ม ดื่มริน กินอาหาร
  ร้านข้าวต้ม บาทเดียว ใข่เจียวจาน
  สุขสำราญ  ไส้พะโล้  ใส่โถมาฯ

๐กลับที่พัก  Hop Inn  ดังถิ่นเก่า
  เพราะย่อมเยาว์ คนพัก กันนักหนา
  ถ้าโชว์บัตร   ก็จะได้   ลดราคา
  ต้องกราบลา วันพรุ่งนี้ มีอีกตอนฯ

10/11/2558 @ 16.06 น. 

"เที่ยวเมืองเหนือ 5"(ตอนจบ)
-: กลอนแปดสุภาพ :-

๐ลาแล้วนะ  ลำปาง  เขลางค์นี้
  ทุกถิ่นที่  เที่ยวดู  ดังครูสอน
  จำใจจาก  ลาแล้ว  แก้วอมร
  จำใจจร  ถอนรัก  จากลำปางฯ
 

๐เก้าโมงกว่า ผ่านเกาะคา ลาแล้วหนอ
  มีคนรอ   ต้องรีบไป   จำใจห่าง
  แวะซื้อของ   ร้านCoCo   ที่ริมทาง
  พาน้องนาง ทานน้ำเงี้ยว ก่อนเลี้ยวลาฯ

๐เส้นทางงาว โค้งเพลิน เนินสล้าง
  สลับค้าง    ขึ้นลง    พงพฤกษา
  มองริมทาง  ขับเพลิน  เจริญตา
  ไม่เคยมา  ช่างงามซึ้ง  ติดตรึงใจฯ

๐ผ่านบ้านตาก ฝากใจ ไว้ให้เจ้า
  ขึ้นลงเขา   รื่นรมย์    ชมภูใส
  ถึงทางแยก ไปแม่สอด ทอดยาวไกล
  พี่เคยไป  สองปีก่อน  ตอนเหมันต์ฯ

๐ถึงแยกใหญ่ ตัวเมือง ประเทืองจิต
  รถราติด   ไฟสัญญาน   ผ่านขุขันธ์
  ถ้าตรงไป   เข้าพิจิตร   อยู่ติดกัน
  เคยสุขสันต์   งามซึ้ง   บึงสีไฟฯ

๐แต่ครานี้  เปลี่ยนทิศ  วิ่งชิดขวา
  เจตนา  ไปกำแพง  แหล่งกล้วยไข่
  จะแวะซื้อ  ของฝาก  จากแดนไกล
  เพื่อฝากให้  เพื่อนพ้อง  พี่น้องกันฯ

๐พอถึงย่าน  เมืองสี่แคว  พี่แลหา
  ต้องขับช้า  กะไม่เข้า นครสวรรค์
  กลัวจะเลย  by pass  ทางลาดชัน
  สุขชีวัน   ผ่านออกมา   ลาตัวเมืองฯ

๐ถึงอุทัย  ยังอีกไกล  ไปชัยนาท
  หนทางลาด อย่างดี ตีเส้นเหลือง
  แดดเริ่มอ่อน  ทอแสง  ออกเรื่อเรือง
  งามประเทือง เรืองรอง ดั่งทองทาฯ

๐มโนรมย์  ชื่นชม  ประโลมจิต
  แนบสนิท  เมืองนก  วิหคหา
  จากกันแล้ว ไม่นาน  จะกลับมา
  ผ่านเลยลา  ถึงคนจริง สิงห์บุรี

๐เข้าอ่างทอง มองมา พี่หาอ่าง
  แลอ้างว้าง  ไม่มี  แม่โฉมศรี
  จวบจนเข้า  อยุธยา  ถึงภาชี
  แต่ไม่มี   อาชา   ผ่านมาเลยฯ

๐ถึงวังน้อย  บ่ายคล้อย น้อยใจนัก
  เคยนึกรัก    โฉมตรู    คู่เขนย
  เลี้ยวซ้ายเข้า วงแหวน ดังเช่นเคย
  จะแลเลย   เฉยอยู่   ดูกระไรฯ

๐ฟ้าเริ่มมืด  หมองมัว ทั่วทุกทิศ
  รถเริ่มติด  ไม่รู้ว่า  มาจากไหน
  จากหน้าด่าน  ธัญญะ  ติดยาวไกล
  ผ่านมาได้   ถึงเคหา   เพลาเย็นฯ

๐ขอจบกลอน เที่ยวไป จนไกลบ้าน
  สุขสราญ  ได้บรรยาย ให้เพื่อนเห็น
  รอปีหน้า    ฟ้าใหม่    ใจเย็นเย็น
  ต๋อยยังเป็น  เพื่อนกลอน อย่าถอนใจฯ

11/11/2558 @ 20.22 น.