Wednesday, June 22, 2011

บทกวีนิรันดร์กาล 2

"ฉันเยาว์ฉันเขลาฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาความหมาย"

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึงมาหาความหมาย
ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว

วิทยากร เชียงกูล

ด้านล่างนี้คือฉบับเต็ม

ดอกหาง นกยูง สีแดงฉาน
บานอยู่เต็มฟากสวรรค์
คนเดินผ่าน ไปมากัน
เขาด้นดั้น หาสิ่งใด

ปัญญา มีขาย ที่นี่หรือ
จะแย่งซื้อ ได้ที่ไหน
อย่างที่โก้ หรูหรา ราคาเท่าใด
จะให้พ่อ ขายนา มาแลกเอา

ฉันมา ฉันเห็น ฉันแพ้
ยินแต่ เสียงด่า ว่าโง่เง่า
เพลงที่นี่ ไม่หวาน เหมือนบ้านเรา
ใครไม่เข้า ถึงพอ เขาเยาะเย้ย

นี่จะให้ อะไร กันบ้างไหม
มหาวิทยาลัย ใหญ่โตเหวย
แม้นท่าน มิอาจให้ อะไรเลย
วานนิ่งเฉย อย่าบ่น อย่าโวยวาย

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึง มาหา ความหมาย
ฉันหวัง เก็บอะไร ไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว

มืดจริงหนอ สถาบัน อันกว้างขวาง
ปล่อยฉัน อ้างว้าง ขับเคี่ยว
เดินหา ซื้อปัญญา จนหน้าเซียว
เทียวมา เทียวไป ไม่รู้วัน

ดอกหาง นกยูง สีแดงฉาน
บานอยู่เต็ม ฟากสวรรค์
เกินพอ ให้เจ้า แบ่งปัน
จงเก็บกัน อย่าเดิน ผ่านเลยไป

บทกวีนิรันดร์กาล 1

"เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"


"ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า

ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ

ไม่มีใครต่างล้ำเลิศน่าเทิดทูน

ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป

เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่

ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่

เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ

ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"

วิสา คัญทัพ


ด้านล่างนี้เป็นฉบับเต็ม

สิบสี่ตุลาวันมหาปิติ
พระปกเกล้าทรงดำริพระราชดำรัส
ทรงลงพระปรมาภิไธยอนุมัติ
ไทยยังจำคำสัตย์เสมอมา
สองสี่เจ็ดห้าถึงสองพันห้าร้อยสิบหก
โอ้พระปกฯประชาธิปไตยอยู่ไหนหนา
สิ้นแผ่นดินเผด็จการก็ลานตา
ทุรชนเรียงหน้าเข้าราวี
สิบสี่ตุลาวันมหาวิปโยค
ลูกหลานไทยเลือดโชกทั่วพื้นที่
คาวเลือดคลุ้งนองสาดเพื่อชาติพลี
มาเถิดกูสู้ไม่หนีวีรชน
เขาเพรียกเสียงเพียงขานประสานก้อง
เขาเรียกร้องรัฐธรรมนูญเพิ่มพูนผล
เขายืนหยัดต่อสู้ศัตรูคน
เขาสู้ทนเพื่อมหาประชาไทย
สิบสี่ตุลาวันมหาปิติ
มาฟังสิฟังเสียงสำเนียงใส
เสียงชโยโห่ร้องดังก้องไกล
ประชาชนขับไล่เผด็จการ
คราบน้ำตายังไม่แห้งลงเหือดหาย
เพื่อนพี่น้องล้มตายทุรนร่าน
พ่อข้าเพิ่งจะยิ้มอย่างสำราญ
เห็นลูกมันกล้าหาญก็ภูมิใจ
ครบรอบปีสิบสี่ตุลา
ประชาชนถ้วนหน้าก็ร่ำไห้
ดวงวิญญาณวีรชนอยู่หนใด
วันนี้ร้อยมาลัยมาบูชา
มโหรีจะโหมโรงเป็นระลอก
มหกรรมในนอกจะแน่นหนา
และผู้คนทุกชนชาติจะยาตรา
โปรดมาลาจุดธูปคลุ้งทุ่งพระเมรุ
ครบรอบปีสิบสี่ตุลา
ราชดำเนินเลือดทาแผ่นดินเด่น
วีรกรรมอาชีวะที่กะเกณฑ์
ก็หนุนเนื่องเนืองเห็นเป็นประจำ
รอยเลือดแลกเลือดเดือดพล่าน
อาจหาญโหมรุกบุกกระหน่ำ
สามัคคีมิตรสหายออกร่ายรำ
มุ่งนำประชาธิปไตยหมายทุน
ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน