Wednesday, June 22, 2011

บทกวีนิรันดร์กาล 1

"เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"


"ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า

ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ

ไม่มีใครต่างล้ำเลิศน่าเทิดทูน

ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป

เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่

ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่

เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ

ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"

วิสา คัญทัพ


ด้านล่างนี้เป็นฉบับเต็ม

สิบสี่ตุลาวันมหาปิติ
พระปกเกล้าทรงดำริพระราชดำรัส
ทรงลงพระปรมาภิไธยอนุมัติ
ไทยยังจำคำสัตย์เสมอมา
สองสี่เจ็ดห้าถึงสองพันห้าร้อยสิบหก
โอ้พระปกฯประชาธิปไตยอยู่ไหนหนา
สิ้นแผ่นดินเผด็จการก็ลานตา
ทุรชนเรียงหน้าเข้าราวี
สิบสี่ตุลาวันมหาวิปโยค
ลูกหลานไทยเลือดโชกทั่วพื้นที่
คาวเลือดคลุ้งนองสาดเพื่อชาติพลี
มาเถิดกูสู้ไม่หนีวีรชน
เขาเพรียกเสียงเพียงขานประสานก้อง
เขาเรียกร้องรัฐธรรมนูญเพิ่มพูนผล
เขายืนหยัดต่อสู้ศัตรูคน
เขาสู้ทนเพื่อมหาประชาไทย
สิบสี่ตุลาวันมหาปิติ
มาฟังสิฟังเสียงสำเนียงใส
เสียงชโยโห่ร้องดังก้องไกล
ประชาชนขับไล่เผด็จการ
คราบน้ำตายังไม่แห้งลงเหือดหาย
เพื่อนพี่น้องล้มตายทุรนร่าน
พ่อข้าเพิ่งจะยิ้มอย่างสำราญ
เห็นลูกมันกล้าหาญก็ภูมิใจ
ครบรอบปีสิบสี่ตุลา
ประชาชนถ้วนหน้าก็ร่ำไห้
ดวงวิญญาณวีรชนอยู่หนใด
วันนี้ร้อยมาลัยมาบูชา
มโหรีจะโหมโรงเป็นระลอก
มหกรรมในนอกจะแน่นหนา
และผู้คนทุกชนชาติจะยาตรา
โปรดมาลาจุดธูปคลุ้งทุ่งพระเมรุ
ครบรอบปีสิบสี่ตุลา
ราชดำเนินเลือดทาแผ่นดินเด่น
วีรกรรมอาชีวะที่กะเกณฑ์
ก็หนุนเนื่องเนืองเห็นเป็นประจำ
รอยเลือดแลกเลือดเดือดพล่าน
อาจหาญโหมรุกบุกกระหน่ำ
สามัคคีมิตรสหายออกร่ายรำ
มุ่งนำประชาธิปไตยหมายทุน
ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาปสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

No comments:

Post a Comment