กรณีศึกษา
(บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ชาวไทย ฉบับ มกราคม 2547)
คนญี่ปุ่นชอบเนื้อปลาสดแต่ ทะเลหรือแหล่งน้ำแถบญี่ปุ่นนั้น ไม่มีปลาชุกชุมมานานหลาย ทศวรรษแล้ว ดังนั้นเรือประมงทั้งหลายจึงมีขนาด ใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถหาปลาได้เพียงพอต่อการ บริโภค ชาวประมงออกไปหาปลาในน่านน้ำที่ไกล ออกไป ยิ่งออกจากฝั่งไปไกลก็ยิ่งใช้เวลานานเวลา นำปลากลับมา ถ้าออกทะเลไปนาน เกิน 2-3 วัน ปลา ก็จะไม่สดและคนญี่ปุ่นไม่ชอบรสชาติแบบนั้นวิธีแก้ ปัญหาก็คือ
บริษัทประมงทำการติดตั้งตู้แช่แข็งเอาไว้บนเรือ พอจับ ปลาได้ก็เอาใส่ไว้ในตู้แช่แข็งตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในทะเล ทำให้พวกชาวประมงสามารถ ออกไปหาปลาได้ไกล จากฝั่งมากขึ้น แต่ว่าคนญี่ปุ่นก็สามารถแยกความ แตกต่างในรสชาติของเนื้อปลาสดกับเนื้อปลาแช่แข็ง ได้อยู่ดี และพวกเขาก็ไม่ชอบปลาแช่แข็งเสียด้วย ปลาแช่แข็งจึงมีราคาถูก เมื่อเป็นเช่นนั้นบริษัทประมงจึง ทำการติดตั้งแท้งค์น้ำ แล้วเอาปลาที่จับได้ใส่ลงไป แต่พอถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาและต้องโคลงเคลงอยู่ใน แทงค์นานๆเข้าปลาก็ไม่ยอมว่าย มันอ่อนล้าแล้วก็ เซื่องซึมลงแม้จะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม
โชคไม่ดีที่คนญี่ปุ่นก็ยังสามารถแยกความแตกต่าง ในรสชาติของเนื้อปลาได้อยู่เหมือนเดิม ปลาเหล่านั้น ไม่ให้รสชาติความสดใหม่เสียแล้ว เพราะว่ามันไม่ได้ ว่ายมาหลายวัน คนญี่ปุ่นชอบรสชาติความสดของ ปลาใหม่ๆมากกว่าปลาเฉื่อยๆแบบนั้น บริษัทประมง ญี่ปุ่นแก้ปัญหานี้อย่างไร? พวกเขาจะจับปลาที่ให้ รสชาติของความสด ใหม่กลับประเทศอย่างไร? หากคุณ จะให้คำปรึกษาแก่อุตสาหกรรมประมงคุณจะแนะนำ อย่างไร?
เสือ... ไม่ยอมกินเหยื่อที่ตายแล้ว
คน.... ก็ไม่ชอบกินปลาที่ตายแล้วเหมือนกัน
บางทีการเป็น “ของตาย” มันก็ไม่น่าสนใจอะไร อีกต่อไป ทางแก้ปัญหาเรื่องปลาของญี่ปุ่น ... ง่ายนิดเดียว ชาว ประมงญี่ปุ่นเค้าจะใส่ปลาไว้ในแทงค์แล้วก็ใส่ ”ปลา ฉลาม” ลงไปในแต่ละแทงค์ด้วย ปลาฉลามอาจ กินปลาไปนิดหน่อยแต่มันทำให้บรรดาปลาส่วนใหญ่ มีชีวิตชีวามากขึ้น ปลาก็ผจญกับเรื่องท้าทาย ไม่เบื่อ หน่าย ไม่เป็นปลาที่รอวันตาย ความท้าทายที่พอดี ทำให้ เราสนุกกับปัญหาสนุกกับสิ่งกระตุ้นใหม่ๆที่เข้ามา
ครับ... ที่ยกเรื่องอ้างมาทั้งหมดนี้ผมเพียงต้องการ อธิบายว่าทำไม ผมจึงหาเรื่องมาทำหนังสือชาวไทยให้ พวกเราอ่านกัน ไม่ใช่เรื่องสนุกอะไรหรอกครับ เมื่อ 8 ปี ที่แล้วผมก็คิดว่าน่าจะทำสื่ออะไรออกมาสำหรับคนไทย สักหน่อย พอที่จะไม่ให้ชีวิตพวกเราในต่างแดนมัน อัปเฉาจนเกินไป ถึงวันนี้ผมก็ยังคิดอยู่เหมือนเดิม การทำอะไรที่มันท้าทายความสามารถออกมาบ้าง ผม คิดว่าผมได้กำไรชีวิตนิดหน่อย และขอแบ่งปันกำไรให้ พวกเราชาวไทยบ้างเล็กน้อย ผมว่าเราได้ความยุติธรรม ขนาดกำลังเหมาะ ยกเป็นกรณีศึกษาก็ได้ครับ.
No comments:
Post a Comment